แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดของไวรัส โควิด-19 คนไทยเกือบ 2 ใน 3 (63%) มีแผนจะซื้อรถยนต์ภายในเดือนตุลาคม 2564 จากผลสำรวจทัศนคติลูกค้า โดย Carsome (คาร์ซัม) แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ 7 ใน 10 ของคนที่จะขายรถยนต์วางแผนจะขายในช่วงเวลาเดียวกัน ข้อมูลดังกล่าวเป็นการสร้างความคึกคักให้กับตลาด รถยนต์ มือสองในประเทศไทย โดย Carsome ได้ทำการสำรวจทัศนคติผู้บริโภคชาวไทยจำนวน 1,055 คน ในเดือนตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา
จากการเปรียบเทียบในช่วงก่อนล็อคดาวน์ พบว่าคนไทยต้องการขายรถเพิ่มขึ้น 15% และในบรรดาผู้ที่ต้องการขายรถยนต์นั้น มีผู้ขายจำนวนเพิ่มขึ้น 19% ที่วางแผนขายรถยนต์ผ่านทางช่องทางออนไลน์ แสดงให้เห็นถึงการยกระดับที่สำคัญ ในเศรษฐกิจยุคดิจิทัล ขณะเดียวกันหลังการล็อคดาวน์ คนไทย 3 ใน 5 (61%) ระบุว่าชอบใช้ช่องทางออนไลน์ เพราะช่วยให้การขายรถยนต์สะดวกมากขึ้น
อีริค เชง ผู้ร่วมก่อตั้งและกลุ่มประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Carsome กล่าวว่า "ผลสำรวจของเราแสดงให้เห็นว่าการระบาด ของโควิด-19 ได้เปลี่ยนทัศนคติของคนไทยต่อการซื้อและขายรถยนต์ ความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นจากช่องทางออนไลน์ เช่น Carsome ในการขายรถยนต์จะช่วยลูกค้าสามารถควบคุมกระบวนการขายให้รวดเร็ว สะดวกและไม่ยุ่งยากและการระบาด ของไวรัส เป็นปัจจัยเร่งให้ลูกค้ามีความต้องการที่จะใช้ช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น และเราเห็นว่าเทรนด์นี้จะยังคงดำเนินไป อย่างแน่นอนในอนาคต"
อย่างไรก็ตาม คนไทยมีแนวโน้มสูงในการไว้วางใจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์หรือศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ว่าจะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อลดการสัมผัสกับโควิด-19 (94%) และโดยทั่วไปผู้ตอบแบบสำรวจชาวไทยมีความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการ แพร่เชื้อ โควิด-19 ในยานพาหนะมากที่สุด (94%) เปรียบเทียบกับการสำรวจชาวอินโดนีเซีย (90%) และชาวมาเลเซีย (85%)
พฤติกรรมการขับขี่ทั่วทั้งภูมิภาคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญในปี 2563 โดยเจ้าของรถยนต์ทำความสะอาด เพื่อฆ่าเชื้อภายในและภายนอกรถเป็นประจำ สวมหน้ากากอนามัยขณะขับรถ และพกเจลทำความสะอาดมือ มีกระดาษทิชชู่ และถังขยะที่มีฝาปิดในรถ ตลอดจนใช้บริการขนส่งสารสาธารณะน้อยลงเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับไวรัส นอกจากนี้พบว่า คนไทยกว่า 7 ใน 10 ใช้รถยนต์ส่วนตัวเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น และผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกไม่สบายใจในการใช้บริการขนส่ง สาธารณะจำนวนมากขึ้นถึง 53%
เอริคเสริมว่า "ความรู้สึกไม่สบายใจที่เพิ่มขึ้นในการใช้รถสาธารณะ และการใช้รถร่วมกับคนที่ไม่รู้จักอาจส่งผลให้คนสนใจ ในการซื้อรถใหม่หรือรถมือสองมากขึ้น จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันถือโอกาสการเติบโตของตลาดรถยนต์มือสอง และเราเชื่อว่าบริการเสริมที่ Carsome นำเสนอพร้อมกับกระบวนการขายที่ไม่ยุ่งยากนั้นจะทำให้แพลตฟอร์มของเรา เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคนไทย"
Carsome เตรียมแผนจะนำเสนอ วิถีการซื้อรถยนต์รูปแบบใหม่สำหรับลูกค้าในประเทศไทย ที่มีความน่าเชื่อถือ สะดวกสบาย และรวดเร็ว ในอนาคตอันใกล้นี้