นายสมบูรณ์ หอมนาน ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว (สวท.) กทม. กล่าวกรณีในสื่อออนไลน์ตั้งข้อสังเกตถึงความคืบหน้าการพิจารณาต่อสัญญาให้มูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครบริหารจัดการพื้นที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครที่จะสิ้นสุดสัญญาในเดือน ส.ค.64 ว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นประธาน ได้มอบหมายให้ สวท. เสนอคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานยกร่างสัญญาฯ ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครลงนาม และเร่งประชุมนัดแรก โดยเบื้องต้นได้มอบนโยบายว่าสัญญาฯ ควรมีระยะเวลา 10 ปี และเร่งแก้ไขปัญหาอุปสรรคการขอรับเงินอุดหนุนจากกรุงเทพมหานครผ่านขั้นตอนตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง เงินอุดหนุนของกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2560 รวมทั้งเร่งรัดให้แต่งตั้งกรรมการสรรหา เพื่อคัดเลือกกรรมการมูลนิธิหอศิลปฯ ชุดใหม่ และเมื่อได้กรรมการมูลนิธิหอศิลปฯ ชุดใหม่แล้ว ให้นัดประชุมพิจารณาร่างสัญญาฯ ร่วมกัน ก่อนที่กรุงเทพมหานครจะนำร่างสัญญาฯ เสนอคณะกรรมการทรัพย์สินกรุงเทพมหานครพิจารณาต่อไป โดยมีกำหนดให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นสุดสุดสัญญาฯ ในเดือน ส.ค.64 นอกจากนี้ ร่างสัญญาฯ ฉบับใหม่ จะต้องครอบคลุมอำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานครในด้านศิลปวัฒนธรรม สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิหอศิลปฯ และหลักการในการออกข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง เงินอุดหนุนของกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2560 รวมทั้งแก้ไขปัญหาการตีความถึงที่มาของรายได้ รายจ่าย และความจำเป็นในการให้เงินสนับสนุนภารกิจ หรือกิจกรรมใด ๆ ไว้อย่างชัดเจน
ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้กำหนดให้หอศิลปฯ เป็นศูนย์กลางแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมของเมือง โดยบริหารจัดการในรูปแบบของมูลนิธิ เพื่อให้เกิดความคล่องตัว มีอิสระ ไม่ติดปัญหาอุปสรรคจากระเบียบและกฎเกณฑ์ทางราชการ และได้ออกข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง เงินอุดหนุนของกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2560 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนเงินอุดหนุนการดำเนินการด้านศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนในสัญญาให้สิทธิในตัวอาคารหอศิลปฯ ยังให้ความสำคัญกับเด็ก เยาวชน และบุคลากรที่จะพัฒนางาน เรียนรู้งานด้านศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยและเพื่อประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ทั้งยังมีส่วนช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง