J&T Express ฉลองครบรอบ 2 ปี ที่เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา
โดย J&T Express ครอบคลุมถึง 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา และสิงคโปร์ ที่มีผู้ใช้บริการมากกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลก และ J&T Express Group มีเป้าหมายขึ้นเป็นขนส่งอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายบรูซ หลิว (MR. BRUCE LIU) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย เผยว่า "ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเฉพาะในปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวมต่อปีเพิ่มขึ้นถึง 500% และยังมียอดพัสดุรวมตลอดทั้งปีมากกว่า 300 ล้านชิ้น ทำให้เราเป็นที่รู้จักและก้าวขึ้นเป็น1 ในผู้นำด้านการขนส่งพัสดุด่วนดยตั้งแต่เปิดดำเนินการจนถึงปลายปี 2563 บริษัทฯ ได้ลงทุนในประเทศไทยไปแล้วมากถึง 6,000 ล้านบาท
และในปี 2564 นี้ บริษัทฯ มีแนวทางในการดำเนินธุรกิจด้วยคอนเซ็ปต์ "ก้าวไปอีกขั้น" โดยเรามุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถด้านคุณภาพการให้บริการ มีแผนจะลงทุนเพิ่ม เป็นจำนวนเงินถึง 3,000 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นความสำคัญ 3 อย่างคือ เทคโนโลยีการคัดแยก ยานพาหนะ และพนักงาน
ปัจจุบันศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ในย่านอุตสาหกรรมใกล้กรุงเทพฯ โดยมีพื้นที่รวมมากถึง 100,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ไม่เพียงแค่นั้น บริษัทฯ ยังมีศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้าอีกหลายแห่งครอบคลุมทั่วประเทศ โดย ใช้อุปกรณ์คัดแยกอัตโนมัติที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในโลก มีความสามารถในการคัดแยกพัสดุมากถึง 3 ล้านชิ้นต่อวัน
อีกทั้งบริษัทฯ มีนโยบายสนับสนุนการจ้างงานภายในประเทศไทย เพื่อรองรับปริมาณพัสดุที่จะเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต ในปีนี้เรามีแผนจ้างงานเพิ่ม 30,000 อัตรา เพื่อเป็นการช่วยลดปัญหาการว่างงานอีกด้วย"
นายบรูซ หลิว กล่าวเสริมอีกว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ ตอกย้ำสโลแกน "Express Your Online Business สะดวกทันใจธุรกิจออนไลน์" ด้วยบริการใหม่ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย กับบริการ เจแอนด์ที เคลมไวในวันถัดไป และยังมีบริการอื่นๆ อาทิ J&T fulfillment, COD Next Day, J&T Home เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก ตอบสนองความต้องการของลูกค้า บริษัทฯ ยังได้จับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง BMN ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้า โดยการเพิ่มจุดรับ - ส่งพัสดุ ในระบบรถไฟฟ้า MRT ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2564
และ J&T Express Thailand ยังถือเป็นแบรนด์แรกในธุรกิจขนส่งพัสดุด่วนของเมืองไทย ที่เซ็นสัญญาจ้างพรีเซนเตอร์มากถึง 2 คน โดยมี คู่พรีเซนเตอร์คือ "มาริโอ้ เมาเร่อ และ ใบเฟิร์น - พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์" นายบรูซ หลิว (MR. BRUCE LIU) ทิ้งท้ายเพิ่มเติม