บมจ.คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น (CSS) งานวิ่งชนสนั่น คว้างานโครงการจัดหารถตรวจสอบและหาทิศวิทยุ จำนวน 26 คัน จาก กสทช. มูลค่า 226 ล้านบาท แถมด้วยงานโครงการศูนย์ข้อมูลสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ วางเครือข่ายตรวจวัด PM 2.5 ทั่วประเทศจาก บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) มูลค่ากว่า 190 ล้านบาท ฟาก "สมพงษ์ กังสวิวัฒน์" บิ๊กบอส ระบุช่วยต่อยอดธุรกิจ เปิดโอกาสรับงานโครงการด้านไอทีใหม่ได้อีกเพียบ คาดมูลค่างานไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท มั่นใจหนุนผลงานปีนี้โตทะลุเป้า 20%
นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CSS เปิดเผยว่า บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ National Talecom Pubilc Company Limited ได้พิจารณาตกลงให้บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการโครงการศูนย์ข้อมูลสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ วางเครือข่ายตรวจวัด PM 2.5 ทั่วประเทศ มูลค่ากว่า 190 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าว บริษัทฯ จะเป็นผู้ดำเนินการจัดหา และติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศทั่วประเทศ พร้อมทั้งพัฒนาระบบสารสนเทศ ฐานข้อมูล รวมไปถึงกระบวนการเฝ้าระวังและเตือนภัยสภาพปัญหา PM 2.5 ในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศได้อย่างรวดเร็วและทันเหตุการณ์
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะเป็นระบบสารสนเทศระบบแรกๆ ของกระทรวงดิจิทัลที่เปิดให้สาธารณชนสามารถเรียกใช้ข้อมูล PM 2.5 และข้อมูลภูมิอากาศอื่น ๆ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และความกดอากาศที่รวบรวมจากสถานที่ติดตั้งต่าง ๆ ทั่วประเทศ ได้เป็นสาธารณะในรูปแบบ Open Data ได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ บริษัท นีออนเวิรคส์ คอมมูนิเคชั่นส์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ CSS ดำเนินธุรกิจให้บริการติดตั้งเสาสัญญาณและอุปกรณ์โทรคมนาคมและให้บริการบำรุงรักษาเครือข่ายระบบโทรคมนาคม ยังได้งานโครงการจัดหารถตรวจสอบและหาทิศวิทยุ จำนวน 26 คัน ของ กสทช. มูลค่าโครงการ 226 ล้านบาท
"การที่บริษัทฯ ได้รับพิจารณาคัดเลือกจาก NT และ กสทช. แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจในศักยภาพของกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่ผ่านคุณสมบัติครบทุกประการ ซึ่งการได้รับการพิจารณาดำเนินโครงการในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานสามารถเติบโตได้อย่างมีศักยภาพและมั่นคงมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ที่จะรับงานทั้งจากภาครัฐ และเอกชน เพื่อต่อยอดให้ธุรกิจที่ดำเนินการอยู่เติบโตมีการเติบโตต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทฯ สามารถรับงานในโครงการอื่น ๆ ในด้านธุรกิจไอทีเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งแต่ละโครงการส่วนใหญ่ จะมีมูลค่าสูงถึงระดับพันล้านบาท" นายสมพงษ์กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจตามแผนที่ได้วางไว้ และมีความพร้อมจะเข้าร่วมประมูลงานใหม่ๆ จึงทำให้เชื่อมั่นว่า ในปีนี้ภาพรวมธุรกิจจะยังคงเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง และมั่นใจว่าผลการดำเนินงานทั้งปีจะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่าจะมีรายได้เติบโต 20% จากปีก่อน