ทีมวิจัย เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินพัฒนาการบวกของการกระจายวัคซีน คาดจะช่วยปลดล็อกการเปิดประเทศ ถือเป็นบวกต่อการฟื้นตัวของหลายกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการท่องเที่ยว ดังนั้นจึงเป็นที่มาของธีมการลงทุน "Welcome to Thailand" โดยเลือก AOT เป็นหุ้นเด่นสำหรับธีมในสัปดาห์นี้
การผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 รวมถึงแนวทางเดินหน้าสู่การเปิดประเทศที่จะมีความชัดเจนมากขึ้น แบ่งเป็น 4 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1: ตั้งแต่ 1 เม.ย.: เริ่มใน 6 จังหวัด นำร่อง ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย (สุราษฎร์ธานี) เชียงใหม่ พัทยา (ชลบุรี) โดยผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน (มีใบรับรอง) กักตัว 7 วัน ภายในโรงแรม เป็นการผ่อนคลายสำหรับผู้เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ระยะที่ 2: ตั้งแต่ 1 ก.ค.: ในจังหวัดภูเก็ต ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส หรือตามที่กำหนดไม่ต้องกักตัว (จังหวัดอื่นยังต้องกักตัว 7 วัน) ระยะที่ 3: ตั้งแต่ 1 ต.ค.: พื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย (สุราษฎร์ธานี) เชียงใหม่ พัทยา (ชลบุรี) ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามกำหนด ไม่ต้องกักตัว ระยะที่ 4: ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565: ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามกำหนด เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว
หลายอุตสาหกรรมเตรียมรับแรงหนุนบวก : จากพัฒนาการเชิงบวกของการกระจายวัคซีน ซึ่งคาดจะเป็นปัจจัยปลดล็อกสำคัญต่อการเปิดประเทศในช่วงถัดไป หนุนนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาอีกครั้ง เป็นบวกต่อผลการดำเนินงานของหุ้นในกลุ่มขนส่ง (สนามบิน, สายการบิน, รถไฟฟ้า), โรงแรม, ร้านอาหาร, ห้างสรรพสินค้า, ค้าปลีก, สื่อ, ธนาคาร อีกทั้งยังมีโอกาสเร่งนักลงทุนต่างชาติกลับมามากขึ้น ส่งผลดีต่อ กลุ่มนิคมฯ, อสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งผู้ป่วยต่างชาติที่มากขึ้น เป็นผลดีต่อกลุ่มการแพทย์
AOT (BUY,72) เป็นหุ้นเด่นสำหรับธีมในสัปดาห์นี้: -การเปิดเมืองจะเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 โดยเปิดที่แรกคือสนามบินภูเก็ต โดยนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็มจะสามารถเดินทางเข้าภูเก็ตได้โดยไม่ต้องกักตัว และทางการไทยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าภูเก็ต ไตรมาส 3/64 ประมาณ 100,000 ราย โดยสนามบินภูเก็ตเป็นสนามบินที่ใหญ่อันดับ 3 มีสัดส่วนรายได้ประมาณร้อยละ 13 ของรายได้ทั้งหมด การเปิดเมืองจึงเป็นผลดีโดยตรงกับ AOT
-รัฐบาลไทยคาดว่าจะสามารถเปิดประเทศได้อย่างเต็มที่ในเดือนตุลาคม 2564 และ AOT จะเป็นผู้ได้ประโยชน์โดยตรงจากการเปิดประเทศ
-อย่างไรก็ดีเนื่องจาก AOT มีปีการเงินที่เริ่มต้นเดือนตุลาคม การเปิดประเทศเต็มที่จะมีผลดีกับปีการเงิน 65 โดยในปีการเงิน 64 เราคาดว่า AOT จะมีการขาดทุน 8,542 ล้านบาท และพลิกเป็นกำไรในปี 65 (15,188 ล้านบาท) และกำไรสูงสุดที่ 31,094 บาทในปี 66 จากการฟื้นตัวเต็มที่ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการเพิ่มขึ้นของรายได้สัมปทานสินค้าปลอดภาษี (จากพื้นที่เช่าที่เพิ่มขึ้น)