"Hose Center" (โฮสเซ็นเตอร์) บริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มนักธุรกิจชาวไทย และกลุ่ม TOYOX (โตโยกซ์) ประเทศญี่ปุ่น เผยแตกไลน์เข้าตลาดสายยางในครัวเรือนและออนไลน์ ทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เติบโต 77% ในปีที่ผ่านมา สวนทางวิกฤตโควิด-19
คุณนที อ่อนอิน ผู้บริหาร บริษัท โฮสเซ็นเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่าในปี 2563 ที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งในส่วนของยอดขายในประเทศและยอดส่งออก แม้ว่าวิกฤตโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าสายยางและข้อต่อเพื่อการอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นตลาดหลักดั้งเดิมของบริษัท
โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทได้มีการจับมือกับ กลุ่มแพคริม ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาผู้นำและองค์กรชั้นนำของประเทศไทยในการนำเอาโซลูชัน "The 4 Disciplines of Execution" (4DX) ที่พัฒนาโดยสถาบัน FranklinCovey สหรัฐอเมริกามาใช้เพื่อช่วยขับเคลื่อนกลยุทธ์สำคัญของบริษัทในการเพิ่มยอดขายได้เป็นผลสำเร็จ ด้วยยอดขายในประเทศที่ทำสถิติใหม่และเติบโต 77% จากปี 2562 และยอดส่งออกที่ทำสถิติใหม่เช่นกัน ด้วยอัตราการเติบโต 60%
"ผลสำเร็จนี้มาจากการร่วมแรงร่วมใจของพนักงานทุกคนในบริษัทที่ทุ่มเทและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเป้าหมายสำคัญของบริษัท คือการเพิ่มยอดขาย ทุกคนตั้งแต่พนักงานส่งสินค้า บัญชี บุคคล ฯลฯ ต่างมีส่วนร่วมในการผลักดันให้ยอดขายบริษัทเติบโตสวนทางวิกฤตได้ในปีที่ผ่านมา" คุณนทีกล่าว
คุณกฤตย์ ลีลาเลิศอำไพ ที่ปรึกษาอาวุโส กลุ่มแพคริม กล่าวว่าปัญหาขององค์กรส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการขาดการวางแผนหรือกลยุทธ์ที่ดี แต่มาจากความสามารถในการนำแผนนั้นมาปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จมากกว่า ซึ่ง 4DX ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ปัญหานี้ให้กับธุรกิจเป็นการเฉพาะ และได้พิสูจน์แล้วโดย บริษัท โฮสเซ็นเตอร์ จำกัด และองค์กรอีกหลายร้อยแห่งทั้งในไทยและต่างประเทศว่าสามารถช่วยในการขับเคลื่อนผลลัพธ์ได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน
"การทำให้คนในองค์กรมี Sense of Meaning มีความรู้สึกร่วมหรือเชื่อมโยงกับเป้าหมายบริษัท เชื่อมโยงกับหัวหน้า ทีม และรู้สึกถึงคุณค่าของการทำงานที่ตัวเองทำอยู่ ตรงนี้แหละเป็นเรื่องยาก และผู้บริหารส่วนมากชอบเอาเรื่องพวกนี้ไปบอกว่าเป็นเรื่องของ HR แต่จริงๆเป็นหน้าที่ลีดเดอร์ ผู้บริหารที่ต้องออกแบบให้มันเกิด" คุณกฤตย์กล่าวสรุปย้ำถึงหลักการส่วนหนึ่งของ 4DX ที่เน้นในการสร้างการเชื่อมโยงระหว่างกลุยทธ์ของบริษัทหรือผู้บริหารกับเป้าหมายของพนักงานทุกระดับ