ทรูมันนี่จัดเต็ม 4 มาตรการความปลอดภัย เสริมเกราะการใช้จ่ายผ่านอีวอลเล็ทให้แก่ผู้ใช้งาน พร้อมเสนอยึดหลัก "3ร" ป้องกันตกเป็นเหยื่อล่อลวงทางการเงินในยุคไซเบอร์
ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตตั้งแต่เราลืมตาตื่นจนเข้านอน หลายคนใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อติดต่อสื่อสารและทำธุรกรรมผ่าน e-Money อยู่เป็นประจำ ข้อมูลจาก ธปท. ระบุจำนวนบัญชี e-Money ณ ธันวาคม 2563 มีมากกว่า 107 ล้านบัญชี ยิ่งเทคโนโลยีดิจิทัลและกระแสการใช้จ่ายผ่านออนไลน์มีความสะดวกและเติบโตมากขึ้นเท่าไร กลโกงของมิจฉาชีพก็เพิ่มความแนบเนียนและมีความหลากหลายมากขึ้นเท่านั้น จนเกิดกรณีที่มีผู้ตกเป็นเหยื่ออยู่บ่อย ๆ ซึ่งสิ่งที่มิจฉาชีพต้องการจากเราหลัก ๆ นอกจาก "เงิน" แล้ว ก็ยังมี "ข้อมูลส่วนบุคคล" ที่มักใช้กลลวงให้ได้มาโดยวิธีที่เรียกว่า 'ฟิชชิ่ง' (Phishing) ซึ่งก็คือการเอาเหยื่อล่อให้เราหลงเชื่อและทำตาม โดยใช้ชั้นเชิงปลอมแปลงแม้กระทั่งชื่อผู้ส่งข้อความ SMS ไปที่เบอร์ของเหยื่อพร้อมแนบลิงค์ไปยังเว็บที่ทำขึ้นปลอมและแสร้งเป็นผู้ให้บริการต่าง ๆ เพื่อให้เหยื่อหลงกรอกข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ต้องมีสติและใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อได้รับการติดต่อในรูปแบบดังกล่าว
ข้อมูลส่วนบุคคล คืออะไร?
ข้อมูลส่วนบุคคล คือข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตนหรืออัตลักษณ์ของบุคคลนั้น ๆ ได้ ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่จะทำให้คนที่ได้ข้อมูลชุดนั้นไปสามารถเข้าถึงโปรไฟล์ของบริการต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูล อาทิ บัตรประชาชน ใบขับขี่ ทะเบียนบ้าน รูปภาพใบหน้า ลายนิ้วมือ เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิตรวมถึงเลขหลังบัตร เบอร์มือถือ ชื่อผู้ใช้ (Username) รหัสผ่าน (Password) และอาจรวมถึงรหัสผ่านแบบใช้ได้ครั้งเดียวหรือ OTP (One Time Password) ที่อาจผูกอยู่กับบริการหรือแอปฯ ทางการเงินต่าง ๆ ของเรา เป็นต้น ซึ่งมิจฉาชีพพอได้ไปแล้วก็สามารถเอาไปทำธุรกรรมในรูปแบบต่าง ๆ เสมือนเป็นเจ้าของข้อมูล โดยที่เจ้าของไม่รู้ตัว
การล่อลวงฟิชชิ่ง (Phishing) อันตรายแค่ไหน จะระวังหรือป้องกันตัวอย่างไร?
Phishing หากแปลจากเสียงอ่านก็เหมือนกับ "การตกปลา" ซึ่งการจะตกปลาให้ได้นั้นต้องใช้ "เหยื่อล่อ" ซึ่ง Phishing เป็นหนึ่งในกลโกงที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยวิธีที่มิจฉาชีพมักใช้เพื่อล่อเอาข้อมูลส่วนบุคคลของเรานั้นหลากหลายและบางครั้งก็แนบเนียนมาก ตั้งแต่การส่งอีเมล ข้อความทางแชต หรือ SMS พร้อมลิงก์ปลอมโดยแอบอ้างชื่อหรือโลโก้แบรนด์อื่น รวมถึงปลอมแปลงเอกสารทางการเกี่ยวกับบริษัทเพื่อให้ดูเหมือนน่าเชื่อถือก็มีมาแล้ว จากนั้นก็นำเสนอสินค้าหรือบริการ อาทิ เล่มเกม ลงทุน เสนอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ฯลฯ หรือแม้แต่สวมรอยเป็นหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่สถาบันทางการเงินที่น่าเชื่อถือ ติดต่อเราโดยการโทร ส่งข้อความ อีเมลสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ จนเราหลงเชื่อและลวงให้เราทำตามขั้นตอน เช่น คลิกลิงค์ บอกข้อมูลส่วนตัวสำคัญ ๆ จนไปถึงให้ OTP แล้วก็ใช้ข้อมูลของเราล็อกอินเข้าบัญชีแอปฯ การเงินเพื่อเปลี่ยนการแจ้งเตือน รวมถึงดูดเงินออกจากบัญชี
ด้วยความห่วงใยความปลอดภัยในการทำธุรกรรมการเงินของผู้ใช้ ทรูมันนี่ ในฐานะผู้ให้บริการอีวอลเล็ทชั้นนำในประเทศไทย ได้ให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องความปลอดภัยและมี 4 มาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันความปลอดภัยและดูแลผู้ใช้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการทรูมันนี่ได้อย่างสบายใจ ได้แก่
โดย ทรูมันนี่ นำเสนอแนวทางป้องกันการถูกล่อลวงโดยยึดหลัก "3ร" ดังนี้
- ร - ระมัดระวัง? ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวใด ๆ แก่ผู้ติดต่อเข้ามาทั้งที่ไม่แน่ใจและไม่ได้ตรวจสอบก่อน ให้สังเกตความผิดปกติต่าง ๆ จากการติดต่อสื่อสารที่ได้รับ อาทิ ชื่อลิงค์เว็บไซต์ไม่ตรงกับแบรนด์ที่แอบอ้าง การขอข้อมูลที่จะทำให้ผู้ขอสามารถเข้าถึงเงินในบัญชีเราได้ เป็นต้น
- ร - รอบคอบ? อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ ไม่ว่าข้อเสนอที่ได้จะดีแค่ไหน สามารถขอติดต่อกลับในช่องทางติดต่ออย่างเป็นทางการ หรือขอข้อมูลผู้ติดต่ออย่างละเอียด เช่น ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร และตรวจสอบโดยตรงผ่านช่องทางทางการของแบรนด์นั้น ๆ อาทิ อีเมลที่ระบุใน Official Website และ Call Center เป็นต้น
- ร - รอบรู้? อัปเดทข่าวสารกลโกงมิจฉาชีพทั้งสำหรับความปลอดภัยของตนเอง และไว้เตือนคนรอบข้าง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และเยาวชน ให้เข้าใจถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคล และฉลาดใช้เทคโนโลยีโดยไม่เสี่ยงตกเป็นเหยื่อ
ทั้งนี้ ทรูมันนี่ ขอให้ผู้ใช้โปรดใช้ความระมัดระวังมิจฉาชีพแอบอ้าง ชื่อ และโลโก้ทรูมันนี่ หรือ บริษัทในเครือ อย่าง แอสเซนด์ นาโน และมี "สติ" ตรวจสอบก่อนทำธุรกรรมทุกครั้ง หรือหากมีข้อสงสัยโปรดติดต่อช่องทางสื่อสารทางการของทรูมันนี่ หรือ โทร 1240
เกี่ยวกับ TrueMoney (ทรูมันนี่)
TrueMoney คือผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มุ่งเน้นให้บริการทางการเงินแก่ผู้คนซึ่งรวมไปถึงผู้ที่เข้าไม่ถึงบริการของสถาบันทางการเงิน โดยให้บริการใน 6 ประเทศในภูมิภาคได้แก่ ประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
TrueMoney ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2546 และเข้าเป็นธุรกิจหนึ่งของบริษัท Ascend Money ในปี พ.ศ. 2557 และเป็นพันธมิตรกับบริษัท Ant Financial Services Group ใน พ.ศ. 2559 ปัจจุบัน ทรูมันนี่ ให้บริการด้านการเงินที่หลากหลายผ่าน TrueMoney Wallet แอปพลิเคชั่นอีวอลเล็ทที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่ช่วยอำนวยความสะดวกและทำให้การใช้จ่ายเป็นเรื่องง่าย อีกทั้งตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ ทรูมันนี่ ยังมีเครือข่ายตัวแทนที่ครอบคลุมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการบริการรับชำระเงินแบบออฟไลน์ทั้งหมดนี้เพื่อมอบความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับหลายล้านคนเพื่อก้าวล้ำไปสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น