กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--เอไอเอส
เอไอเอส จับมือพันธมิตรในวงการสื่อสารโทรคมนาคมระดับโลก เปิดตัว AIS Future World : ศูนย์รวมนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในพื้นที่กว่า 600 ตารางเมตร ณ ชั้น 4 สยามพารากอน ให้เยาวชนและผู้สนใจได้สัมผัสและทดลองเทคโนโลยีและอุปกรณ์สื่อสารไร้สายมากมาย พร้อมร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดล้ำกับ โรงภาพยนตร์ 360 องศา แห่งแรกในเอเชีย หวังสร้างเป็นแหล่งรวมของกิจกรรมการเรียนรู้ในลักษณะของ Wireless Technology Work Shop ตลอดปี
นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์, ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานธุรกิจบริการสื่อสารไร้สาย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่นของเอไอเอส ที่จะเดินหน้าพัฒนาและสรรหาเทคโนโลยีและบริการสื่อสารไร้สายให้เป็นเสมือนหนึ่งเครื่องมือที่จะเข้ามามีส่วนช่วยให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้นในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น, สะดวกสบายกับทุกรูปแบบการสื่อสารได้ยิ่งขึ้นเพราะไร้ข้อจำกัดในเรื่องสถานที่และเวลา , ให้คุณมีความสุขยิ่งขึ้นกับความบันเทิงเคลื่อนที่หลากหลายชนิด ดังนั้นจึงได้จัดสร้าง AIS Future World ขึ้น ณ บริเวณชั้น 4 สยามพารากอน ให้เป็นเสมือนหนึ่งศูนย์รวมนวัตกรรมของเทคโนโลยีไร้สายทั้งปัจจุบันและอนาคตไว้ในที่เดียวกัน เพื่อมอบเป็นความรู้และสร้างแรงบันดาลใจที่ไม่มีที่สิ้นสุดแก่คนไทยดังกล่าว”
“โดยได้ร่วมมือกับพันธมิตรระดับสากลในวงการสื่อสารโทรคมนาคม อาทิ อีริคสัน ,หัวเหว่ย ,โนเกีย และ ซีเมนส์ ในการระดมเทคโนโลยีและอุปกรณ์ไร้สาย รวมถึง Application ต่างๆมากมายมารวมไว้ที่ AIS Future World ทั้งนี้นอกเหนือจากการจัดแสดงเทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว ยังจะมีการจัดสัมมนาในลักษณะของ Wireless Work Shop เพื่อถ่ายทอด-แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกลุ่มผู้ชื่นชอบเทคโนโลยี รวมถึงเป็นแหล่งเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของเอไอเอสเองและพันธมิตร อันจะนำไปสู่การสร้างสังคมสื่อสารไร้สายสมบูรณ์แบบที่จะทำให้ชีวิตคนไทยดียิ่งขึ้น”
โดยนาย สุดเขต สุจิพิธธรรม รองประธานฝ่ายการตลาดลูกค้าหลัก บริษัทอีริคสัน ( ประเทศไทย ) จำกัด กล่าวว่า “ การนำเสนอเทคโนโลยีและบริการแห่งอนาคตเป็นสิ่งที่อีริคสันให้ความสำคัญและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดหลักของ Future World ของเอไอเอส Solution MobiHealth ที่นำมาแสดงที่นี่ เป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่ตอบสนองความต้องการบริการด้านสุขภาพรูปแบบใหม่ โดยอีริคสันได้พัฒนาอุปกรณ์ให้มีขนาดเล็ก ใช้งานง่าย สามารถพกพาได้สะดวก มีความน่าเชื่อถือ (reliability) สูง เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพร่างกาย ด้วยความเป็น mobility การทำงานทุกอย่างจึงเป็นไปโดยอัตโนมัติ และ real-time ค่าที่วัดได้จากเซนเซอร์จะถูกส่งผ่านไปยังมือถือ ผ่านเครือข่าย GPRS ส่งตรงไปยังแพทย์ได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ อีริคสันยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารรูปแบบใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและด้วยความเป็นผู้นำด้าน 3G เรามี Solution อีกมากมายที่พร้อมนำมาแสดงเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของโลกการสื่อสารไร้สายอย่างเต็มรูปแบบ”
มิสเตอร์พันเหยา ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายของบริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การร่วมมือของเอไอเอสและหัวเหว่ยใน “ฟิวเจอร์เวิร์ล” เกิดขึ้นโดยเอไอเอสต้องการนำเทคโนโลยีและบริการใหม่ๆ เพื่อพัฒนาวงการสื่อสารในตลาดโทรศัพท์มือถือของประเทศไทย พวกเราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่หัวเว่ยในฐานะพันธมิตรจะได้ร่วมมือกับเอไอเอสเพื่อเข้ามีส่วนร่วมในศูนย์กลางเทคโนโลยีนวัตกรรมไร้สายแห่งนี้ และยังเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ บริการของพวกเรา เช่น VDO Call, VDO Streaming และ Wireless Data Hi-speed จะนำความสะดวกสบายมาให้ผู้ใช้อย่างแน่นอน
นางสาวนนทวัน สินธวานนท์ หัวหน้าส่วนธุรกิจมัลติมีเดีย ฝ่ายบริหารลูกค้าและการตลาด บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โนเกียมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเปิด AIS Future World ในวันนี้ซึ่งจะเป็นสถานที่ที่ผู้บริโภคจะสามารถเข้ามาสัมผัสกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในด้านการสื่อสารไร้สายด้วยตนเอง โนเกียตระหนักดีว่า การรับรู้จากประสบการณ์ตรง เป็นการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีให้กับผู้บริโภค ซึ่งจะก่อให้เกิดความต้องการในตลาด การพัฒนาตลาดในด้านอื่นๆ ต่อไป รวมทั้งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถใช้ชีวิตที่ไม่หยุดนิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถติดต่อสื่อสารกับคนรอบข้างได้อย่างไม่ขาดตอน โดยในการสนับสนุนร้าน AIS Future World โนเกียได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่มาแสดงให้ชมก่อนที่จะนำออกวางจำหน่าย รวมทั้งนำเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายล่าสุดมาแสดง สาธิต และให้บริการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นฟรี”
มร. ปีเตอร์ คลิ้มท์ รองประธานบริหารและหัวหน้ากลุ่มการสื่อสาร บริษัท ซีเมนส์ จำกัด กล่าวว่า “ซีเมนส์และเอไอเอสมีความสัมพันธ์ในการทำธุรกิจร่วมกันในตลาดการสื่อสารไร้สายมาเป็นเวลานาน ซึ่งเราภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นหนึ่งในพันธมิตรในการดำเนินโครงการต่างๆ เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในการก่อตั้ง ‘AIS Future World’ ที่สยามพารากอน ซึ่งเป็นศูนย์รวมนวัตกรรมด้านการสื่อสารไร้สายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย"
โดยกลุ่มธุรกิจระบบควบคุมและขับเคลื่อนอัตโนมัติ แผนกระบบอาคาร และกลุ่มการสื่อสาร ของบริษัท ซีเมนส์ จำกัด ได้ร่วมกันนำเสนอและจัดแสดงเทคโนโลยีพร้อมโซลูชั่น Smart Home ในโซน Feeling@Home ซึ่งประกอบไปด้วยโซลูชั่นด้านระบบความปลอดภัย ระบบควบคุมและตรวจสอบ การเชื่อมต่อไร้สาย อุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านอัจฉริยะ และ Entertainment on demand โดยเทคโนโลยี Smart Home ของซีเมนส์นี้จะช่วยในเรื่องการควบคุมระบบไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน ทำให้สามารถตั้งค่าการทำงานของแสงไฟและไฟฟ้าภายในบ้านได้ตามความต้องการ รวมถึงการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตหรือบรอดแบนด์ทีวี การตั้งระบบการทำงานของเครื่องปรับอากาศ และระบบความปลอดภัยต่างๆ ทั้งขณะอยู่ในบ้านหรือนอกบ้าน โดยสามารถสั่งงานผ่านโทรศัพท์มือถือ พีดีเอ หรืออุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ WLAN ได้
"การร่วมมือกันในครั้งนี้ แสดงถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของซีเมนส์ที่มุ่งมั่นและตั้งใจที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับลูกค้าด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่ล้ำหน้า ผมเชื่อมั่นว่าศักยภาพของเทคโนโลยีแห่งอนาคตของซีเมนส์จะช่วยให้ ‘AIS Future World’ เป็นศูนย์รวมนวัตกรรมด้านการสื่อสารไร้สายที่โดดเด่นที่สุดในอนาคต" มร. คลิ้มท์ กล่าวเสริม
AIS Future World ประกอบไปด้วย 6 Zone คือ
1. Feeling @ Home แสดงเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกสบายภายในบ้าน ทั้งเพื่อการพักผ่อน ใช้ชีวิตประจำวัน หรือ เมื่อใช้บ้านเป็นสถานที่ทำงาน อาทิ Home security , SOHO Solutions ,Push mail , การควบคุมการสั่งงานอุปกรณ์และระบบไฟฟ้า รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้าน, Shopping Online ผ่าน Buddy Broadband ( เลือกสินค้า ,จองสินค้า,และจ่ายค่าสินค่า) รวมถึงเทคโนโลยี Telemedicine ที่สามารถเก็บและส่งข้อมูลคนไข้ที่เป็นโรคเรื้อรัง ผ่าน สัญญาณ GPRSไปสู่เครื่องรับข้อมูลที่โรงพยาบาล และใช้ข้อมูลดังกล่าว อาทิ การวัดความดันโลหิต การวัดออกซิเจนในเลือดในการวิเคราะห์เพื่อการรักษา โดยไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล
2. Exhibition Zone เป็นพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรม และ Work Shop ประกอบด้วยเวทีที่สามารถพับได้ สามารถจุคนได้ ประมาณ 20-30 คน โดย ในช่วงที่ไม่มีกิจกรรม จะใช้ในการจัดแสดงเทคโนโลยีของมือถือรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังจะวางตลาด โดยรวมไปถึงอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆด้วยเช่นกัน
3. Play Zone สำหรับทดลองสัมผัสเกมบนมือถือรูปแบบต่างๆ ทั้งที่รู้จักกันแล้วอย่างแพร่หลาย รวมไปถึงเกมที่ยังไม่มีในตลาดอีกด้วย
4. AIS Vision Zone มีลักษณะเป็นมินิเธียเตอร์ ที่จัดสร้างเป็นโรงภาพยนตร์ที่ฉายแบบ 360 องศาเป็นแห่งแรกในเอเชีย ด้วยจอที่มีความสูง 3 เมตร รอบทิศทาง สร้างบรรยากาศเสมือนจริง รอบทิศทาง สร้างบรรยากาศเสมือนจริง โดยนำเสนอ AIS Vision ผ่านทางภาพยนตร์ที่สื่อว่า Life Style ของคนนั้น เทคโนโลยีสื่อสารไร้สายจะเริ่มก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคุณในอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน การใช้ชีวิตประจำวัน
5. Public Sphere เป็นมุมพักผ่อนสำหรับผู้ที่รับชมภาพยนตร์หรือผู้ที่รับชมภาพยนต์แล้วหรือผู้ที่เดินผ่านไปมาสามารถแวะมานั่งเล่นได้ พร้อมด้วย Application ที่ใช่เล่นฆ่าเวลา ไม่ว่าจะเป็นตู้ vvending machine ของ mPAY รวมถึงเทคโนโลยี Contactless รวมถึงเทคโนโลยี Contactless หรือบริการซื้อสินค้าต่างๆ , ทดลองโปรแกรมสำหรับตัดต่อคลิปวีดีโอได้เองบนมือถือ , การตัดต่อเพลงและภาพ ตลอดจนเสียงเรียกเข้าต่าง ๆ เพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับมือถือของคุณได้ง่ายๆ
6. Envision Zone เป็นโซนที่เตรียมพร้อมเพื่อจัดแสดงและสัมผัสกับและสัมผัสกับเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายในอนาคต เช่น สื่อสารไร้สายในอนาคตเช่น 3G, WiMAX และ Mobile TV Broadcasting , WiMAX, และ Mobile TV Broadcasting หลังจากได้รับใบอนุญาตทดสอบและดำเนินการแล้ว โดยจะจัดแสดงบริการที่จะเกิดขึ้นเมื่อเข้าสู่ยุค 3G เช่น VDO Call , Streaming , data hi- speed, VDO Sharing , Online game พร้อมโชว์เครื่องโทรศัพท์มือถือในระบบ 3G ส่วนด้านล่างจะเป็นส่วนบริการให้คำแนะนำการตั้งค่าอุปกรณ์ หรือ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี
AIS Future World ตั้งอยู่ ณ ชั้น 4 สยามพารากอน โซน พร้อมเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเยี่ยมชมได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ทุกวัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ส่วนงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส โทร. 0 2299 5063, 0 1811 2412--จบ--