ASIAN เผยงบ Q1/64 สุดสตรอง! มีกำไรสุทธิ 215 ลบ. เพิ่มขึ้น 110 ลบ. เติบโต 105% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าคาด อยู่ที่ 16.9% ยอดขายอยู่ที่ 2,095 ลบ. เพิ่มขึ้น 5.5% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น 13% และอาหารสัตว์น้ำรายได้เพิ่มขึ้น 23% ประเมินแนวโน้มธุรกิจ Q2/64 คาดยังดีต่อเนื่อง หนุนภาพรวมทั้งปี 64 ฟอร์มสวยโต 8-10% และตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 14-15% ได้ตามแผน
นายเอกกมล ประสพผลสุจริต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงินบริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN ผู้ประกอบธุรกิจแปรรูปสัตว์น้ำแช่แข็ง จำหน่ายและส่งออก ทั้งที่เป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัท และผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้า และผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดไตรมาส 1/2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 215 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110 ล้านบาท หรือคิดเป็น 105% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 355 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 286 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 16.9% ทำสถิติสูงสุดใหม่สำหรับไตรมาสที่ 1 เนื่องจากอัตรากำไรที่ดีขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารสัตว์น้ำ และอัตรากำไรในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่เยือกแข็งดีขึ้นจากการที่ผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้าเพิ่มมูลค่า (Value Added Product-VAP) มียอดขายมากขึ้น
ขณะที่ รายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 2,095 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขายและบริการ 1,986 ล้านบาท ในขณะที่ ยอดขายเชิงปริมาณเพิ่มขึ้นราว 4% เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารสัตว์น้ำ ในขณะที่ยอดขายกลุ่มอาหารแช่เยือกแข็งและทูน่ายอดขายลดลงเล็กน้อย
"ผลประกอบการที่ออกมาเป็นที่น่าประทับใจ ถึงแม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศไทยตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงช่วงต้นปี จนกระทั่งถึงปัจจุบัน โดย ASIAN ยังไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดี ASIAN ได้ยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่รบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก และจากมาตรการที่เข้มงวดและการบังคับใช้อย่างเคร่งครัด บริษัทฯมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังส่งสัญญาณที่จะฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จากการที่มีการเร่งฉีดวัคซีนทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ทำให้คาดการณ์ได้ว่าการล็อคดาวน์ในหลายๆ ประเทศจะมีการผ่อนคลายมากขึ้น และเป็นไปได้ว่าจะเริ่มผ่อนคลายตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ สถานการณ์ดังกล่าวจะกระตุ้นยอดการส่งออก ซึ่ง ASIAN จะได้รับผลเชิงบวกจากการที่ความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงในสหรัฐฯและยุโรป จะยังคงสูงขึ้นจากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัว และความต้องการอาหารที่เก็บรักษาได้โดยไม่ต้องแช่เย็น รวมถึงความต้องการอาหารแช่แข็งเพิ่มขึ้นสูงในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 จะสนับสนุนยอดขายให้เติบโตแข็งแกร่ง" นายเอกกมล กล่าว
สำหรับในไตรมาส 1/2564 สัดส่วนรายได้หลักมาจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็ง โดยมีสัดส่วนราว 39% และ 34% ของรายได้รวมตามลำดับ ทั้งนี้ ASIAN มองธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง จะเป็นธุรกิจที่มีสัดส่วนมากที่สุดภายในปีนี้ อาหารสัตว์เลี้ยงบรรจุถุงเพาซ์ เป็นกลุ่มหลักที่มีการเติบโตสูงในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยคิดเป็นสัดส่วน 22% ของกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง ปริมาณคำสั่งซื้อจากลูกค้าในสหรัฐอเมริกาและยุโรปยังคงเพิ่มสูงขึ้น และ ASIAN ในฐานะผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกระดับพรีเมี่ยมชั้นนำของไทย ยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้บริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อให้สามารถรับคำสั่งซื้อได้มากขึ้น โดยคาดว่าไลน์ผลิตเพาซ์ไลน์ใหม่จะสามารถใช้ได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้
ในส่วนของอาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์ monchou ของบริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์ในการขายเพื่อรุกตลาดภายในประเทศมากขึ้น เน้นการขยายตลาดร้านค้าสัตว์เลี้ยงและโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ โดยสามารถวางจำหน่ายได้แล้วมากกว่า 200 ร้านค้าทั่วประเทศ และในเดือนพฤษภาคมนี้ บริษัทฯวางแผนจะออกผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงในกลุ่ม "complete and balance" ภายใต้แบรนด์ "Monchou balance" (มองชู บาลานซ์) เพื่อเป็นสินค้ากลุ่มทางเลือก
ขณะที่ กลุ่มอาหารสัตว์น้ำ บริษัทฯ มีผลประกอบการดีเกินคาดในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 จะกดดันปริมาณผลผลิตทั้งในกลุ่มกุ้งและปลา ส่งผลให้ตลาดอาหารกุ้งและอาหารปลาหดตัว และอาจส่งผลต่อยอดขายอาหารสัตว์น้ำของกลุ่มบริษัทในช่วงที่เหลือของปีได้
ธุรกิจอาหารแช่แข็ง กลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า (Value added product) หรือกลุ่มของทอดยังคงมีความต้องการสินค้าดีต่อเนื่อง บริษัทฯ กำลังอยู่ในระหว่างการขยายกำลังการผลิต โดยคาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ในขณะที่อัตรากำไรในกลุ่มหมึกก็ยังคงมีแนวโน้มที่น่าพอใจ
"ในปี 2564 เราเชื่อว่าจะเป็นอีกปีที่ดีของ ASIAN เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจ และใช้เทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน โดยในปีที่ผ่านมาได้ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ทันสมัย และเพื่อใช้แรงงานที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหาร และมีแผนลงทุนต่อเนื่องในปีนี้ โดยวางงบลงทุนไว้ที่ 400 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้ลงทุนในการขยายเครื่องจักร และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้ดีขึ้นแทนการใช้แรงงานคน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและรักษาอัตรากำไรให้ดีต่อเนื่อง" นายเอกกมล กล่าว
สำหรับแผนธุรกิจปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้จากการขายและบริการหลักจะเติบโตราว 8-10% จากปีก่อนมาอยู่ที่ราว 9,500 ล้านบาท จากการเติบโตของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารสัตว์น้ำ เป็นแรงผลักดันสำคัญ พร้อมทั้งคงนโยบายเน้นขยายตลาดผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าในกลุ่มอาหารแช่เยือกแข็ง ตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 14-15%