นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด ( มหาชน) หรือ IIG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 151.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.04 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 38.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 11.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.09 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 10.6%
ทั้งนี้ รายได้จากการขายและให้บริการ มีรายได้หลักจากรายได้ธุรกิจด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) คิดเป็น 55.5% ของรายได้รวม ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 84.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.65 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 51.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีลูกค้ารายใหม่ และมีรายได้จากธุรกิจด้านการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) คิดเป็นสัดส่วน 36.9% ของรายได้รวม คิดเป็น 55.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.38 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 15.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นจากการทำตลาดให้เช่าใช้ระบบซอฟต์แวร์ Cloud ERP และลูกค้ารายใหญ่จากธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์
ในขณะที่ รายได้จากการบริการที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์แบรนด์ การสร้างและบริหารประสบการณ์ลูกค้า (CEM) และการตลาดดิจิทัล มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 5.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.09 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 314.6% เนื่องจากบริษัทฯ มีลูกค้าใหม่ที่เป็นธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจโรงพยาบาล และธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยา ซึ่งมีรายได้คิดเป็นสัดส่วน 3.5% ของรายได้รวม
นอกจากนี้ สัดส่วนรายได้อีก 3.3% ของรายได้รวม มาจากรายได้บริการจัดหาบุคลากรทางด้านระบบงานสารสนเทศ ซึ่งมีรายได้คิดเป็น 5.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.72 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 16.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากกลุ่มลูกค้าใหม่เช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากการระบาดของโควิด -19 ทำให้รายได้ในส่วนนี้เพิ่มขึ้นไม่มาก เนื่องจากธุรกิจนี้เป็นการส่งพนักงานเข้านั่งทำงานในสถานที่ประกอบการของลูกค้า ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มีการชะลอการบริการดังกล่าว จึงคาดว่ารายได้ในส่วนนี้จะกลับมาเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ
สำหรับสัดส่วนรายได้ที่เหลืออีก 0.8% มาจากรายได้ธุรกิจด้านการวิเคราะห์และจัดการข้อมูลเพื่อธุรกิจ (iiG Data) ซึ่งถือเป็นธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเริ่มดำเนินการในไตรมาส 4 ปี 2563 มีรายได้อยู่ที่ 1.20 ล้านบาท ซึ่งเป็นการให้บริการต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา โดยมีลูกค้าในกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเป็นลูกค้าหลัก
"แม้จะมีการระบาดของไวรัสโควิด -19 บริษัทฯ ยังคงสามารถทำกำไรและรายได้เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากลูกค้าองค์กรธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องปรับตัวทันทีเพื่อให้แข่งขันได้ และลูกค้ามีความเชื่อมั่นว่า การลงทุนด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีจะส่งผลดีต่อธุรกิจในระยะยาว ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าเมื่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด -19 คลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติจะยิ่งส่งผลบวกต่อบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง " นายสมชาย กล่าว