เราได้เห็นถึงการเติบโตของธุรกิจสัตว์เลี้ยงกันอย่างต่อเนื่องและปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันสัตว์เลี้ยงนั้นได้กลายมาเป็นสมาชิกที่สำคัญคนหนึ่งของครอบครัว เรามาพูดถึงการดูแลเพื่อนซี้อย่างน้องหมากันค่ะ แน่นอนว่าการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวทำให้เจ้าของดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างเอาใจใส่ที่สุด ด้านอาหารการกินก็เช่นกัน หลายครอบครัวมีความคิดที่จะให้น้องหมาได้กินอาหารที่สดใหม่ที่สุด การทำอาหารเองที่บ้านให้น้องหมาจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น การทำอาหารให้น้องหมาเองที่บ้านนั้นเราเรียกว่า Home-cooked (อาหารปรุงเอง) ซึ่งมีมานานแล้วแต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าไรนักเนื่องจากบางครั้งก็พบปัญหาด้านสุขภาพหลังจากให้อาหารปรุงเองที่อาจไม่ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนสมดุล อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไปว่าอาหารปรุงเองคืออาหารคนซะทีเดียว เพราะอาหารปรุงเองนั้นคืออาหารที่เจ้าของปรุงขึ้นเพื่อสุนัขโดยเฉพาะ เนื่องจากเครื่องปรุงรส อาทิ เกลือ น้ำปลา ซีอิ๊ว ซอสปรุงรสที่เราใช้ในการปรุงรสให้อาหารกลมกล่อมอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง
ถ้าพูดถึงการให้อาหารสัตว์เลี้ยง หลายๆ คนอาจมองหาทางเลือกอื่นที่ไม่ใช่อาหารเม็ดให้สัตว์เลี้ยงของเรากิน จึงมีการทำอาหารที่บ้านเมนูต่างๆ ซึ่งก็คือคอนเซ็ปท์ของ Home-cooked หรือ อาหารปรุงเองที่บ้าน ที่ได้มีการคำนวณสัดส่วนและความต้องการทางโภชนาการมาแล้วตามความเหมาะสม คำว่า Home-cooked ที่เป็นคำติดปากของใครหลายๆ คนนั้นยังมีการออกเสียงที่คล้ายกับคำติดปากในกลุ่มโภชนาการสัตว์เลี้ยงคำว่า โฮมคลุก หรือ ข้าวคลุกที่หมายถึงการนำข้าวมาคลุกกับกับข้าวของคนชนิดต่างๆ วันนี้เราจึงอยากอธิบายความแตกต่างและความสำคัญของ Home-cooked (อาหารปรุงเอง) โฮมคลุกสำหรับอาหารสัตว์เลี้ยง และการทำให้สัตว์เลี้ยงของเราได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนสมดุลจากการกิน
ถ้าพูดถึงอาหารปรุงเอง ข้อดีนั้นก็คือความสดใหม่ ความหอมอร่อยที่น้องหมาชื่นชอบ รวมถึงความรู้สึกว่าเราได้ใส่ใจไปในทุกขั้นตอนของการทำอาหาร ส่วนข้อจำกัดคือค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าและเวลาที่ต้องใช้ในการเตรียมอาหารซึ่งการทำอาหารปรุงเองที่มีสารอาหารครบถ้วนสมดุลอาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าอาหารชนิดเม็ดประมาณ 3 เท่าตัว (จากการคำนวณอาหารปรุงเองตามหลักโภชนาการเทียบกับราคาอาหารเม็ดในระดับพรีเมียม) เนื่องจากการเลือกซื้อวัตถุดิบให้ได้ตามความต้องการทางโภชนาการ ทั้งเนื้อสัตว์หรือผักที่มีราคาสูง บางครั้งจึงกลายเป็นข้าวคลุกจากสัดส่วนของข้าวที่เป็นส่วนประกอบหลักเพราะประหยัดค่าใช้จ่ายได้นั่นเอง ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายด้านอาหารจะถูกลงแต่โภชนาการที่ได้รับที่ไม่สมดุลอาจนำไปสู่โรคจากการขาดสารอาหารได้ในอนาคต นอกจากนี้ยังทำให้น้องหมาได้รับพลังงานเยอะเกินไปจากการกินข้าวซึ่งจะเปลี่ยนเป็นไขมันในร่างกาย จนเป็นโรคอ้วนหรือเป็นโรคอื่นๆ ตามมาในที่สุด อาจทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลและจัดการโรคที่อาจเกิดขึ้น อีกหนึ่งสิ่งที่มักพบเห็นในการทำอาหารปรุงเองที่ไม่ได้คุณภาพนอกจากการใส่ข้าวในปริมาณมากแล้วยังมีการใส่วัตถุดิบที่ผ่านการปรุงรสชาติ เช่น ใส่หมูปิ้ง ตับปิ้ง โครงไก่ทอด ผัดผักที่แบ่งมาจากอาหารของเรา ซึ่งการปรุงจะทำให้น้องหมาเกิดความผิดปกติของไตได้ในระยะยาว การทำ Home-cooked แบบไม่เหมาะสมก็ไม่ต่างอะไรจากการให้ข้าวคลุกเลย
แล้วถ้าอยากทำให้น้องหมากินเองต้องทำแบบไหนถึงจะเหมาะสม อาหารปรุงเองที่ดีนั้นอาจต้องมีเนื้อเป็นส่วนประกอบถึง 1 ใน 3 ส่วน ขึ้นอยู่ชนิดของเนื้อสัตว์และวัตถุดิบอื่นๆ ที่ใช้ร่วมด้วย แต่ที่แน่ๆ คือการใช้เนื้อสัตว์ที่มากขึ้น ย่อมหมายถึงราคาต่อมื้อที่สูงขึ้นรวมถึงความไม่แน่นอนของสารอาหารรอง เช่น ปริมาณแคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี โครเมียม วิตามินบี วิตามินอี ที่ร่างกายต้องได้รับอย่างพอเหมาะไม่มากหรือน้อยเกินไป ซึ่งบางครั้งการให้กินเนื้อสัตว์มากเกินไปก็ส่งผลให้ขาดแร่ธาตุบางชนิดได้เช่นกัน
ในการใช้ชีวิตประจำวันในแต่ละวันนั้นเราอาจไม่เวลามากพอที่จะเตรียมอาหารปรุงเองให้น้องหมาในทุกๆ มื้อ ทางเลือกหนึ่งที่สะดวก รวดเร็ว ได้สารอาหารครบก็คืออาหารเม็ดนั่นเอง มีความเข้าใจจากเจ้าของบางส่วนว่าการให้อาหารเม็ดนั้นไม่ดีต่อสุนัขเนื่องจากสารอาหารที่ไม่เพียงพอจึงทำให้เจ้าของต้องไปสรรหาผักหรือผลไม้ที่ไม่เป็นอันตรายต่อน้องหมาในส่วนของสารอาหารที่ขาดหายไป แต่จริงๆแล้วอาหารเม็ดนั้นถูกคิดค้นสูตรและผ่านกระบวนการวิจัยมาแล้วเพื่อให้สุนัขได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอและครบถ้วน สมดุล
คุณหมอป้อมเพชร นพคุณวิจัย สัตวแพทย์ประจำคลินิกโภชนาการในโรงพยาบาลสัตว์หลายแห่งให้คำแนะนำในเรื่องดังกล่าวนี้ว่า "เคสที่พบเห็นอยู่บ่อยครั้งในคลินิกโภชนาการมักเป็นเคสสุนัขน้ำหนักเกินเกณฑ์ มีอาการหายใจลำบาก เจ็บข้อต่อ หรือ ลำไส้มีปัญหาซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเขา เช่น การเดิน แค่เดินในบ้านก็เหนื่อยง่าย ส่วนใหญ่มาจากการให้อาหารที่มากเกินไป อาหารปรุงเองอาจจะให้ปริมาณเนื้อ ข้าว ผักที่ไม่เหมาะสมหรืออาหารเม็ดเองที่เจ้าของให้เกินปริมาณที่แนะนำ จริงๆ แล้วอาหารเม็ดจะมีปริมาณโซเดียมที่ไม่เป็นอันตรายเราแค่ต้องให้ตามปริมาณที่เหมาะสม บางทีการคำนวณสัดส่วนสำหรับอาหารปรุงเองอาจเป็นเรื่องที่ยากสำหรับหลายๆ คน เพราะสุนัขแต่ละวัย แต่ละพันธุ์ก็มีความต้องการทางโภชนาการที่ต่างกัน ทางเลือกที่สะดวกต่อการให้อาหารก็คืออาหารเม็ดสูตรต่างๆ ที่เข้ากับสุนัขของเรา"
สพ.ญ.วธุวรรณ พฤกษนันต์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารวิชาการสัตว์เลี้ยง มาร์ส ไทยแลนด์ อิงค์ ได้เสริมว่า "อาหารที่มีโภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุลมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างมากเนื่องจากสารอาหารแต่ละชนิดจะมีหน้าที่การส่งเสริมระบบการทำงานของร่างกายโดยรวม หากสุนัขไม่ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนเป็นเวลานานร่างกายอาจต้องทำงานหนักขึ้นส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว การเลือกอาหารสัตว์เลี้ยงเช่น PEDIGREE ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่สะดวก ง่าย และคุ้มค่า คุ้มราคา นอกเหนือจากนี้ เจ้าของสัตว์เลี้ยงจะยังสามารถมั่นใจได้ว่าสุนัขของเราได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล เพื่อให้เขาสามารถเติบโตได้อย่างสุขภาพดีในทุกๆ วัน"
ในบรรดาอาหารทุกประเภทไม่มีอาหารที่ดีที่สุดแบบไม่มีข้อเสียเพียงแต่การให้อาหารที่เหมาะกับชีวิตประจำวันของผู้เลี้ยง ความสะดวกในการจัดเตรียมอาหารและความแม่นยำของปริมาณอาหารเป็นสิ่งที่ต้องนึกถึง หากเจ้าของมีเวลาน้อยแต่มีวันหยุดที่สามารถทำอาหารให้น้องหมาที่บ้านได้สัปดาห์ละหนึ่งครั้งก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ตราบใดที่น้องหมาไม่ติดใจอาหารปรุงเองจนไม่ยอมกลับไปกินอาหารเม็ดและตราบใดที่อาหารนั้นเป็น Home-cooked ที่ไม่ใช่แค่โฮมคลุกแบบข้าวเยอะ คลุกกับข้าวน้อยๆ ตามที่เราเห็นกัน น้องหมาก็จะมีสุขภาพดีและมีความสุขกับเราไปได้อีกนานอย่างแน่นอน
เกี่ยวกับ มาร์ส ไทยแลนด์ อิงค์
มาร์ส ไทยแลนด์ อิงค์ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจ มาร์ส เพ็ทแคร์ มีสำนักงานใหญ่อยู่ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และมีผู้ร่วมงานกว่า 85,000 คนทั่วโลก โดยดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับต้นๆ ของโลก และเป็นเจ้าของตราสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำของโลก อาทิ PEDIGREE(R) WHISKAS(R) IAMS(R) CESAR(R) SHEBA(R)TEMPTATIONS(R) เป็นต้น ด้วยความเชื่อว่าสัตว์เลี้ยงทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้น ในปัจจุบัน มาร์ส ไทยแลนด์ อิงค์ ได้ดำเนินโครงการ Better Cities for PetsTM จากแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่น "เพื่อโลกที่ดีกว่าสำหรับสัตว์เลี้ยงTM" ท่านสามารถทำความรู้จักกับ มาร์ส ให้มากขึ้น ได้ที่ https://www.mars.com/
เกี่ยวกับเพดดิกรี(R)
เพดดีกรี(R) เป็นตราสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงที่อยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจ มาร์ส เพ็ทแคร์ จากประสบการณ์ผลิตอาหารมากกว่า 80 ปี เพดดีกรี(R) มุ่งเน้นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่ดีและประโยชน์ที่ครบถ้วนเพื่อให้สุนัขทุกสายพันธุ์และทุกช่วงวัยได้มีความสุขและสุขภาพที่ดีในทุกวัน ท่านสามารถหาข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://www.pedigree.co.th