นายสุรพล แก้วอินธิ พัฒนาการจังหวัดนครพนม มอบหมาย นางวรนุช กรุงเกตุ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยนักวิชาการพัฒนาชุมชนจังหวัด ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามโครงการพระราชทาน โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง จังหวัดนครพนม ในรายของ นายศราวุฒิ พนาจันทร์ ผู้ผ่านการอบรมตามโครงการรุ่นที่ 1/1 หมู่ที่ 8 ตำบลนาถ่อน อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม โดยครัวเรือนได้รับการสนับสนุนการขุดปรับพื้นที่หนอง คลองไส้ไก่ ในพื้นที่ 3 ไร่ จากอำเภอธาตุพนมและภาคีเครือข่าย ทั้งนี้ ภายในพื้นที่ได้มีการปลูกไม้ 5 ระดับ (สูง กลาง เตี้ย เรี่ยดินและกินหัว) มีการปลูกข้าว พืชผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ซึ่งทำให้สามารถลดรายจ่ายภายในครัวเรือนโดยเฉลี่ยอย่างน้อย 20 บาท/วัน มีการปลูกดอกดาวเรืองซึ่งสร้างรายได้แก่ครัวเรือนประมาณ 800 บาท/เดือน และแบ่งปันพืชผักแก่เพื่อนบ้านด้วย
นายศราวุฒิ พนาจันทร์ กล่าวว่า "รู้สึกดีใจและภาคภูมิใจที่ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษญกิจพอเพียงในรูปแบบโคก หนอง นา มาสู่ครอบครัว และรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงพระราชทานโอกาสได้เรียนรู้หลักทฤษฎีใหม่และได้ชีวิตใหม่ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ให้ความช่วยเหลือ ตอนนี้ครอบครัวมีความสุขและรู้สึกได้ถึงความหวังของการได้เริ่มต้นชีวิตใหม่"
กรมการพัฒนาชุมชน ร่วมกับ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการบูรณาการสืบสานพระราชปณิธานและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ซึ่งทรงพระราชทานโครงการ "โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง" เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มนักโทษเด็ดขาดที่คาดว่าจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ และจะพ้นโทษในปี 2563 จำนวน 39,084 รายในเรือนจำ 137 แห่ง ได้รับโอกาสในการประกอบสัมมาชีพภายหลังพันโทษ ตลอดจนเกิดความภาคภูมิใจในสิ่งที่ตนได้ลงมือทำเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้อื่น ไม่หวนกลับไปกระทำความผิดซ้ำอีกโดยกรมราชทัณฑ์และกรมการพัฒนาชุมชนได้มีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือผู้ต้องขังที่ผ่านการอบรมโครงการ "โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง" ได้นำความรู้ที่ใช้ในการอบรมนำไปปรับใช้ในการประกอบอาชีพภายหลังการพ้นโทษ และสนับสนุนให้ผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัวเข้าถึงภารกิจขั้นพื้นฐานของรัฐหรือการบริการสาธารณะต่อไป