บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL คาดทั้งปีโตต่อเนื่อง เป็นไปตามแผนการดำเนินการที่วางไว้ ปัจจุบันมีแบ็คล็อกในมือแล้ว 3,645 ล้านบาทโดยคาดการณ์รายได้ทั้งปีจะเติบโตจากปีก่อน 30-40% ด้าน CEO เผย บริษัทฯ เดินหน้าเสนองาน New S-Curve ต่อเนื่อง
นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/2564 บริษัทฯคาดว่ายังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2564 ที่มีมีรายได้รวมอยู่ที่ 511.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.00 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 45.91 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 14.53 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากโครงการเน็ตห่างไกล (USO 2) ที่มีจำนวนจุดให้บริการเพิ่มมากขึ้น ส่งสัญญาณทั้งปีบริษัทฯ จะเปิดบริการได้ครบทุกจุด 100% รวมทั้งลูกค้าที่เข้ามาใช้งานบริการโครงข่ายเพิ่มมากขึ้น และการรักษาฐานลูกค้าไว้ได้ อันเนื่องมาจากประสิทธิภาพของโครงข่ายและเสถียรภาพของการให้บริการ สัดส่วนของรายได้จากการให้บริการโครงข่าย ไตรมาส 1/2564 บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 300.06 ล้านบาท ขณะเดียวกันธุรกิจการให้บริการติดตั้งโครงข่าย มีรายได้อยู่ที่ 176.00 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะยังคงบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการรับงานติดตั้งโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ และลูกค้ามีความมั่นใจในบริการของบริษัทฯ อยู่แล้ว โดยมีรายได้อยู่ที่ 176.00 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการให้บริการดาต้า เซ็นเตอร์ ที่ 20.86 ล้านบาท ซึ่งช่วยสนับสนุนการเติบโตให้แก่บริษัทฯได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมให้บริการและเสนองานทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ตามแผน New S-Curve ที่ได้วางไว้
อย่างไรก็ตาม จากการบริหารจัดการที่ดี และการรุกการให้บริการในทุกธุรกิจ สนับสนุนให้ผลงานปีนี้มีการเติบโตสูงขึ้นตามแผนงานที่วางไว้ โดยปัจจุบันมีสัญญาในมือ (Backlog) อยู่แล้วทั้งสิ้น 3,645 ล้านบาท เป็นงานบริการโครงข่าย 2,853 ล้านบาท งานให้บริการติดตั้งโครงข่าย 599 ล้านบาท และงานให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ 193 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์จะรับรู้ 40 % ในปี 2564 นี้เพื่อสนับสนุนรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ที่วางไว้ ส่วนงานจากแผนยุทธศาสตร์ New S-Curve และการขยายฐานลูกค้า จะช่วยเติมเติมให้ปีนี้บริษัทฯ สามารถทำเสร็จได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ สร้าง New High ของรายได้ตั้งแต่ที่ก่อตั้งบริษัทฯ มา
นายณัฐนัย กล่าวอีกว่า สำหรับไตรมาส 2/2564 นั้น บริษัทยังคงเดินหน้าเสนองานใหม่อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเร่งนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี มาพัฒนาโซลูชันใหม่ "ด้าน Big Data และ Security " สำหรับการลุยตลาดภาครัฐและเอกชน เพื่อเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ในกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ได้มากขึ้น นำไปสู่กระจายรายได้และสร้างความยั่งยืนในการเติบโต โดยบริษัทฯ มีงานตามแผน New S-Curve อาทิเช่น โครงการทางด้านอากาศยานนไร้คนขับ ซึ่งมีขนาดใหญ่, โครงการพัฒนาทักษะสร้างความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Course Online),โครงการกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอัจฉริยะ (Smart CCTV) คาดจะเห็นความชัดเจนในไตรมาสนี้
สำหรับผลประกอบการโค้งแรกของปีนี้มีทิศทางที่ดี เพราะบริษัทฯ มีงานในมือเพื่อรองรับการรับรู้รายได้ไว้แล้ว แม้จะต้องเผชิญกับสถานการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทฯ ยังคงได้งานในมือเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งแผนกลยุทธ์ New S-Curve ด้านงาน Big Data และ Security เน้นการพัฒนานวัตกรรม และการตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร ยกระดับคุณภาพเทคโนโลยีของประเทศให้ดียิ่งขึ้น ด้วยความเชี่ยวชาญที่บริษัทฯ มีในธุรกิจด้านเทคโนโลยี บริษัทฯเชื่อมั่นว่าจะสามารถขยายโอกาสสู่ New S-Curve และสร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ทุกภาคส่วน และผลการดำเนินงานในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ นายณัฐนัย กล่าว