กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--บมจ.หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)
บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) จะเปิดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 15,000,000 หุ้น ให้แก่ประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 14 - 16 ธันวาคม 2548 คาดว่าจะระดมทุนให้แก่บริษัทฯ ได้ประมาณ 274 ล้านบาท โดยได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการในการจัดจำหน่ายฯ ร่วมกับผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายชั้นนำรายอื่นๆ อีก 7 ราย
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายฯ เปิดเผยว่า “บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหนังสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ครบวงจรชั้นนำรายใหญ่ของประเทศไทย บริษัทฯ มีขบวนการผลิตที่สมบูรณ์ซึ่งสามารถผลิตตั้งแต่การฟอกหนังดิบจากโคและกระบือ จนกระทั่งสิ้นสุดเป็นหนังฟอกสำเร็จรูปสำหรับใช้ในรถยนต์ ซึ่งรวมไปถึงการบริการเย็บและร้อยหนัง (Sewing) สำหรับเบาะที่นั่งรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถยนต์ที่ใช้หนัง ได้แก่ พวงมาลัย กระปุกเกียร์ เป็นต้น รวมทั้งมีการควบคุมการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงสุดรายหนึ่งของประเทศไทย มีความประสงค์ในการระดมทุนจากประชาชน และนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะเปิดจำหน่ายหุ้นให้แก่ประชาชนที่ราคา 18.25 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท โดยเป็นจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมด 15,000,000 หุ้น แบ่งเป็นการเสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันประมาณ 40% และนักลงทุนทั่วไปประมาณ 60% ทั้งนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างดีจากนักลงทุนสถาบัน ในการเพิ่มทุนครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ทั้งสิ้นประมาณ 274 ล้านบาททั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้ไปใช้ในการขยายกำลังการผลิต เพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากหลายค่ายผู้ผลิตรถยนต์ในปีต่อไป
ด้วยศักยภาพในการเติบโตทางธุรกิจของบริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหนังสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ครบวงจรรายใหญ่ของประเทศที่มีผู้บริหารและผู้ถือหุ้นที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจอุตสาหกรรมฟอกหนังมากกว่า 30 ปี การที่มีกลุ่ม Sumitomo เป็นผู้ถือหุ้นเชิงกลยุทธ์ในสัดส่วนกว่าร้อยละ 20 ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมทางการตลาดโดยสนับสนุนให้บริษัทเข้าถึงลูกค้าในกลุ่มยานยนต์ญี่ปุ่นได้ดีกว่าคู่แข่ง นอกจากนั้นผลการดำเนินงานของบริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) ในช่วงที่ผ่านมา ได้แสดงถึงศักยภาพที่มีการเจริญเติบโตของรายได้สูงกว่า ร้อยละ 37 และ ร้อยละ 46 ในปี 2547 และช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 ขณะที่ยอดการผลิตรถยนต์รวมของประเทศเติบโตกว่าร้อยละ 20 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นอุตสาหกรรมยานยนต์ยังเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายหลักที่รัฐบาลมุ่งเน้นที่จะผลักดันให้เป็น “ดีทรอยต์แห่งเอเชีย” เนื่องด้วยประเทศไทยมีความพร้อมและได้เปรียบประเทศอื่นๆ ในด้านความพร้อมของบุคลากรในการเป็นฐานการผลิต ส่งผลให้เบาะรถยนต์ประเภทหนังซึ่งถือเป็นชิ้นส่วนยานยนต์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในเรื่องคุณภาพที่คงทนและรักษาความสะอาดง่าย รายได้จากการจำหน่ายหนังของบริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด(มหาชน)ในปี 2546 เท่ากับ 471.09 ล้านบาท เพิ่มเป็น 648.77 ล้านบาท ในปี 2547 หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 37 สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2548 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 รายได้จากการจำหน่ายหนังเบาะรถยนต์คิดเป็นจำนวน 688.62 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 94.08 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตของรายได้ร้อยละ 46 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2547 ทั้งนี้ สำหรับการเติบโตในอนาคต ปัจจุบันบริษัทได้รับคำสั่งซื้อล่วงหน้าอย่างเป็นทางการจากรถยนต์หลายรุ่น ส่งผลให้บริษัทต้องเพิ่มกำลังการผลิตในปีหน้าจาก 12 ล้านตารางฟุต เป็น 24ล้านตารางฟุต”
นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายหนังสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ครบวงจรชั้นนำรายใหญ่ของประเทศไทย มีกำลังการผลิต 12 ล้านตารางฟุตต่อปี หรือประมาณ 360,000 ผืนต่อปี ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO/TS 16949:2002 จากสถาบัน TUV Rheinland Group ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นรายแรกในประเทศไทย ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิตเบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์โดยตรง (First Tier Original Equipment Manufacturers หรือ 1st Tier OEM) ให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำกว่า 30 รุ่น อาทิ โตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน ฟอร์ด มิตซูบิชิ อีซูซุ มาสด้า ซูบารุ เป็นต้น โดยได้รับการคัดเลือกจากบริษัทผลิตรถยนต์ (Car Maker) ดังกล่าวฯ ให้เป็นผู้ผลิตเบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์โดยอ้อม (Second Tier Original Equipment Manufacturers หรือ 2nd Tier OEM) ของผู้ผลิตรถยนต์ ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถให้บริการและบริหารการจัดการที่มีคุณภาพและตรงตามความต้องการของลูกค้าได้ครบวงจร ดังเช่นปัจจุบันบริษัท ได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิตรถยนตร์ชั้นนำ เช่น Toyota โดยเป็นผู้ส่งผลิตภัณฑ์สินค้าให้แก่ Toyota เป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 85 ของ Toyota ทั้งหมดที่ผลิตในประเทศไทย การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะเป็นก้าวต่อไปที่สำคัญที่จะเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายของบริษัท คือ รักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายหนังสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ครบวงจรรายใหญ่ของประเทศไทย และขยายขีดความสามารถในการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้บริษัทเข้าถึงแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจที่จะมีการเติบโตอย่างสูงในอนาคต”
ปัจจุบัน บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 300 ล้านบาท โดยเป็นหุ้นสามัญจำนวน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท ต่อหุ้น มีทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้วทั้งสิ้น 225 ล้านบาท จะทำการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 15 ล้านหุ้น ระยะเวลาการเสนอขายระหว่างวันที่ 14 — 16 ธันวาคม 2548 และคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 22 ธันวาคม 2548 โดยใช้ชื่อย่อว่า “ IHL ”
รายชื่อผู้ร่วมลงนามในสัญญาแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์
บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน)
Interhides Public Company Limited
บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน)
Interhides Public Company Limited
- นายธีระ วิภูชนิน ประธานกรรมการ
Mr. Thira Wipuchanin Chairman of the Board
- นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการผู้จัดการ
Mr.Ongart Thumrongsakunvong Managing Director
ที่ปรึกษาทางการเงิน / Financial Advisor
บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) / Kim Eng Securities (Thailand) Plc.
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
Mr.Montree Sornpaisarn Chief Executive Officer
ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย/ Lead Underwriter
บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) / Kim Eng Securities (Thailand) Plc.
ผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย / Co-underwriters
1. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
2. บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน)
3. บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ จำกัด
4. บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด
5. บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน)
6. บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
7. บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน)
ฝ่ายสื่อสารองค์กร / โทร: 02-658-6300 ต่อ 5180,7401-3--จบ--