บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) สัญญาณดี หลังจีนประกาศผ่อนปรนนโยบายครอบครัว สนับสนุนคู่สมรสมีบุตรได้ 3 คน หวังดึงลูกค้าจีนกลับใช้บริการ ศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) คึกคัก ฟาก บิ๊กบอส "นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร" ระบุถือเป็นปัจจัยหนุนช่วยเพิ่มดีมานด์ลูกค้าจีน ขณะที่บริการตรวจเชื้อโควิด-19 ยังมีผู้ป่วยเต็มจำนวน สร้างรายได้เพิ่มต่อเนื่อง มั่นใจผลงานปีนี้โตทะลุเป้า 20% ด้านโบรกเกอร์ ประเมิน Q2/64 โดดเด่น คาดกำไรสุทธิแตะ 40-50 ล้านบาท เคาะเป้าราคาพื้นฐาน 8 บาทต่อหุ้น
นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH ผู้ประกอบธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า กรณีที่ทางการของประเทศจีนได้ปรับเปลี่ยนนโยบายสนับสนุนให้คู่สมรสมีบุตรคนที่ 3 จากก่อนหน้านี้กำหนดให้คู่สมรสมีบุตรได้ไม่เกิน 2 คน หลังจากที่อัตราการเกิดชะลอตัวลงอย่างมาก ซึ่งการปรับนโยบายนี้จะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯเนื่องจากปัจจุบัน EKH มีความเชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวช และการทำเด็กหลอดแก้ว โดยก่อนหน้านี้ ศูนย์ IVF ได้รับการตอบรับจากลูกค้าจีนเป็นอย่างดีช่วยสนับสนุนให้การเติบโตรายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
"การที่ทางการจีนประกาศนโยบายสนับสนุนให้คู่สมรสมีบุตรคนที่ 3 ได้ ถือว่าเป็นผลดีกับ EKH และคาดหวังว่า เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลูกค้าชาวจีน น่าจะกลับมาใช้บริการศูนย์ IVF อย่างคึกคัก ซึ่งคาดว่าจะสามารถเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้ในช่วงไตรมาส 4/2564 โดยการเข้าใช้บริการจะปรับตัวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง "นายแพทย์อำนาจกล่าว
สำหรับแนวโน้มธุรกิจเชื่อว่าในปีนี้ยังคงเติบโตได้ดี เนื่องจากภาพรวมธุรกิจโรงพยาบาลมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างโดดเด่น โดยบริษัทฯ เดินหน้ารุกขยายเปิดบริการตรวจเชื้อโควิด-19 ขณะที่บริษัทฯยังเปิดให้บริการรักษาโรคเฉพาะทางมากขึ้น โดยที่ผ่านมาได้ขยายศูนย์กุมารเวชศูนย์ หู ตา คอ จมูก ศูนย์ทันตกรรม และในปีนี้จะมีการขยายศูนย์กายภาพบำบัด จึงทำให้มีขีดความสามารถในการรองรับการเข้ามาใช้บริการของคนไข้ได้เพิ่มมากขึ้น จึงเชื่อมั่นว่าจะทำให้รายได้ปี 2564 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากงวดเดียวกันปีก่อน
บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่า ตามที่ทางการจีนประกาศให้ครอบครัวมีบุตรได้ 3 คน ส่งผลเชิงบวกกับ EKH เพราะมีความเชี่ยวชาญในด้านสูตินรีเวชและการทำ IVF โดย EKH จับมือกับบริษัททัวร์ในการนำคนจีนเข้ามา คาดว่าในปี 2565 จำนวนเคส IVF จะเพิ่มขึ้นเป็น 312 เคส ซึ่งจะทำรายได้ราว 16% รวมทั้งจะมีรายได้จากการฉีดวัคซีนโควิดเข้ามาเสริมด้วย ส่วนร.พ.สำหรับผู้สูงอายุจะเปิดในไตรมาส1/65 โดยเป็นเตียง ร.พ.ขนาด 39 เตียง อยู่ในทำเลพระราม 2 ใช้เงินลงทุน 110 ล้านบาท ระยะเวลาคืนทุน 6 ปี
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 2/2564 คาดว่ายังคงเติบโตจากการเข้าตรวจโควิด-19 และเข้ารักษาในสมุทรสาครที่ยังคงสูง ซึ่งคาดว่ารายได้เกี่ยวกับโควิด-19 จะอยู่ที่ 42% ของรายได้รวม โดย EKH มีกำลังการตรวจโควิดได้ 300 ราย/วัน ปัจจุบันตรวจอยู่ที่ 200-300 ราย/วัน ส่วนเตียง IPD ในอาคาร A มีคนไข้โควิดมาใช้บริการเต็ม 82 เตียงในเดือนเม.ย.-พ.ค.64 และบางช่วงต้องเสริมเป็น 100 เตียง คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/2564 ไว้ที่ 40-45 ล้านบาท เติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา
ส่วนกำไรปี 2564-65 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ,และเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 128 ล้านบาท และ 135 ล้านบาท ตามลำดับ จึงแนะนำ ซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 8 บาท