บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป(EP) แกร่ง!ได้รับคัดเลือกเข้าเป็นหลักทรัพย์ในดัชนี FTSE SET Index Series กลุ่ม FTSE SET Shariah Index ในรอบการทบทวนเดือน มิ.ย. 64 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และฟุตซี่ รัสเซล มีผลตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.นี้ ฟาก"ยุทธ ชินสุภัคกุล"ประธานกรรมการ ระบุการได้รับคัดเลือกเข้าคำนวณ จะสร้างความเชื่อมั่น และได้รับความสนใจสถาบันไทย และต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม ETF ขณะที่เดินหน้ารุกขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทุกชนิด ตั้งเป้า 5 ปีมีสินทรัพย์แตะ 5 หมื่นล้านบาท
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) เปิดเผยว่า การที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) ได้ประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ในดัชนี FTSE SET Index Series สำหรับรอบทบทวนในรอบเดือนมิถุนายน 2564 โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 21มิถุนายน 2564 ซึ่ง EP เป็นบริษัทที่ได้รับคัดเลือกและจัดอยู่ในกลุ่ม ดัชนี FTSE SET Shariah Index ซึ่งมีจำนวน 34 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมในครั้งนี้
สำหรับ ดัชนี FTSE SET Shariah Index เป็น FTSE SET Index อีก Series ซึ่งสอดคล้องกับหลักศาสนาอิสลาม เพื่อใช้เป็นดัชนีอ้างอิงในการออกตราสารทางการเงินต่างๆ เช่น ETF กองทุนอิสลาม และตราสารประเภท index-linked product ให้กับผู้ลงทุนทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ต้องการลงทุนให้ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม
"การที่ได้มีโอกาสเข้าคำนวณในดัชนี FTSE จะทำให้กองทุนให้ความสนใจลงทุนเพิ่มขึ้น เพราะถือเป็นการอ้างอิงในการวัดการลงทุน และเป็นโอกาสที่ดีจะทำให้ EP เป็นที่รู้จักของผู้ลงทุนในระดับสากลมากขึ้น ซึ่งมีโอกาสช่วยเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจในอนาคตได้อีกด้วย"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2564 บริษัทฯคาดว่าจะสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรให้เติบโตได้ต่อเนื่อง โดยธุรกิจบรรจุภัณฑ์มีสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อนมาก ขณะที่ส่วนของธุรกิจพลังงานในบริษัทฯมีแผนขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆอีกจำนวนมาก ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งความคืบหน้าการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 160 เมกะวัตต์ในประเทศ เวียดนาม อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ทุกอย่าง และคาดว่าจะสามารถทยอยจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)ได้ภายในปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในเวียดนามตอนกลาง ซึ่งคาดว่าจะเป็นการร่วมทุนกับผู้ผลิตไฟฟ้ารายอื่นในประเทศ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้และผลกำไรเพิ่มขึ้นได้อีกมากในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปีจะมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 5 หมื่นล้านบาท