บมจ. โปรเอ็น คอร์ป (PROEN) ลงนามสัญญาซื้อขายคอมพิวเตอร์ในโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบเครือข่ายหลักสำหรับศูนย์คอมพิวเตอร์ กรมศุลกากร มูลค่ารวม 69.88 ล้านบาท ฟากซีอีโอ "กิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม" ระบุงานดังกล่าวทำให้ Backlog ประเภทงานโครงการเพิ่มขึ้นแตะ 175 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง เดินหน้าขยายธุรกิจ เน้นการเติบโต ด้านเทคโนโลยีสร้างรายได้ประจำ ลุยต่อยอดศึกษาพัฒนาธุรกิจใหม่ เผยกระแสตอบรับการเข้าเป็น Validator Node ในระบบ Blockchain ของ BitKub คึกคัก สนับสนุนผลงานธุรกิจ ICT ไตรมาส 2/64 โตตามเป้าหมาย
นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN ผู้นำในธุรกิจ Internet Data Center แบบครบวงจร เปิดเผยในการแถลงผลการดำเนินงาน Opportunity Day เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 บริษัทฯได้ร่วมลงนามสัญญาซื้อขายคอมพิวเตอร์ในโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบเครือข่ายหลักสำหรับศูนย์คอมพิวเตอร์ กรมศุลกากร ตามสัญญาเลขที่ 113/2564 จำนวน 1โครงการ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 69,880,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีอื่น เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ซึ่งการรับงานในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนงานโครงการในมือรับรู้รายได้ (backlog) ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 175 ล้านบาท
สำหรับผลการดำนินงานในไตรมาส 1/2564 ที่ผ่านมาบริษัทฯมีรายได้รวม 203 ล้านบาทเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.2 จากงวดเดียวกันของปีก่อน "ภายหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เงินทุนที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการรับงานโครงการใหญ่ได้มากขึ้น ตามเป้าหมายซึ่งเน้นการเติบโตด้านเทคโนโลยีเพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) อยู่ในธุรกิจหลักของบริษัทฯ และการต่อยอดด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นในรูปแบบต่างๆ โดยล่าสุดการที่บริษัทฯได้เข้าไปร่วมเป็น "Validator Node" ในระบบ Blockchain ของ BitKub ร่วมกับ 11 องค์กรใหญ่ ในเบื้องต้นมีผลตอบรับในทิศทางที่ดีตามที่คาดการณ์ไว้ซึ่งจะผลักดันการเติบโตได้มากขึ้นอย่างแน่นอน"
ประธานเจ้าหน้าที่กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2564 และครึ่งปีหลังปี 2564 รายได้หลักของธุรกิจด้าน ICT คาดว่ายังคงเดิบโตต่อเนื่อง สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลทำให้ความพฤติกรรมของคนต้องใช้ระบบออนไลน์ในการทำงาน ทำธุรกรรมในรูปแบบ E-Commerce, เกมส์ Online และการชำระเงินผ่านระบบ Online เพิ่มขึ้น อีกทั้งผู้ประกอบการจำเป็นจะต้องเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลมากขึ้น เพื่อรองรับธุรกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ E-Commerce, เกมส์ Online และการการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบ Online ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯ ทำให้ธุรกิจศูนย์จัดเก็บศูนย์ข้อมูล (Internet Data Center) มีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ช่วยสนับสนุนให้ผลงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้ โดยจะเน้นการขยายธุรกิจ ด้านเทคโนโลยีสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) และต่อยอดด้วยพัฒนาธุรกิจใหม่ เช่น ธุรกิจคลาวด์ (Cloud Service) และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีซึ่งเป็นพื้นฐานการให้บริการทางการเงิน และบริการ Internet Data Center รวมทั้งบริการด้านเทคโนโลยีพื้นฐานของบริษัทฯ ต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลให้ฐานรายได้จากการขาย และบริการธุรกิจ ICT ของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้น โดยมั่นใจว่าจะเติบโตก้าวกระโดด และต่อเนื่องไปในอีก 3-5 ปีข้างหน้า