แกร็บ ประเทศไทย จับมือ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมด้วย ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท และ โลตัส สานต่อโครงการ 'ตลาดสดคนไทย (Thai Fresh Market)' บริการที่ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรที่สดใหม่ส่งตรงจากท้องถิ่นผ่านบริการแกร็บมาร์ท (GrabMart) พร้อมทั้งสนับสนุนช่องทางในการกระจายสินค้าและเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้กับเกษตรกรไทยและผู้ประกอบการรายย่อย (MSME)
โครงการตลาดสดคนไทย เปิดตัวครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2563 โดยได้มีการนำร่องกับกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อยและจากกลุ่มผู้บริโภค จึงได้มีการสานต่อโครงการและขยายความร่วมมือกับกลุ่มเกษตรกรท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องปัจจุบันได้เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร อาทิ ผัก ผลไม้ อาหารทะเล และเนื้อสัตว์จากชุมชนต่าง ๆ รวมกว่า 800 แห่งได้โดยตรงผ่านบริการ GrabMart บนแอปพลิเคชัน Grab ด้วยบริการส่งไวภายใน 25 นาที
ดร. เก่งการ เหล่าวิโรจนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า "ด้วยความมุ่งในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีและก้าวทันเศรษฐกิจดิจิทัล ตามพันธกิจ 'GrabForGood' หรือ แกร็บเพื่อชีวิตที่ดีกว่า รวมไปถึงการสนับสนุนเกษตรกรไทยและร้านค้าท้องถิ่น ในการใช้แพลตฟอร์มของแกร็บเป็นตัวกลางในการเพิ่มช่องทางในการขายและเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการและเกษตรกร เรามีความยินดีที่ได้รับความร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนในการจัดหาเกษตรกรและร้านค้าในกลุ่มผักและผลไม้ อาหารทะแลและเนื้อสัตว์ที่เข้าร่วมโครงการ 'ตลาดสดคนไทย (Thai Fresh Market)' โครงการ 2 บนแกร็บมาร์ท (GrabMart)"
ทางด้าน นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยอุดม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพันธมิตรทางธุรกิจ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า "นับจากการเปิดตัวโครงการ 'ตลาดสดคนไทย' (Thai Fresh Market) ไปเมื่อกลางปี 2563 ได้รับการตอบรับที่ดีจากเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยในแง่ของการเพิ่มรายได้และฐานลูกค้า อีกทั้งยังได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคทั้งในด้านของคุณภาพและความหลากหลายของประเภทสินค้าผ่านบริการ GrabMart ซึ่งการต่อยอดโครงการ 'ตลาดสดคนไทย' โครงการ 2 บนแกร็บมาร์ท (GrabMart) มุ่งเน้นในการส่งมอบความหลากหลายและสดใหม่ของสินค้าทางการเกษตรให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง รวมไปถึงการร่วมส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยและชุมชนเกษตรกรรมให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อขยายธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น"
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ที่ปรึกษาและคณะทำงานรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า "กระทรวงพาณิชย์ ถือเป็นหน่วงงานภาครัฐที่มีส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยมีพันธกิจในการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าให้เข้มแข็ง ลดความเหลื่อมล้ำและยกระดับรายได้ของประเทศ จึงได้มีส่งเสริมให้เกษตรกรและร้านค้ารายย่อยมีช่องทางในการกระจายสินค้าออกสู่ตลาดที่เพิ่มขึ้น โดยมีการร่วมมือกับภาคเอกชนมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสในการเพิ่มพูนรายได้ ลดความเสี่ยงเรื่องผลผลิตล้นตลาด และยังช่วยให้ธุรกิจของคนไทยสามารถอยู่รอดต่อไปได้ และเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ แกร็บ ได้สานต่อโครงการ 'ตลาดสดคนไทย' เป็นครั้งที่ 2 ทำให้เกษตรกรและร้านค้ารายย่อยมีโอกาสใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการขายสินค้าที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภค"
นายจูเลี่ยน เทสสันนิว ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสฝ่ายธุรกิจดิจิตอล บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า "ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท ในเครือเซ็นทรัล รีเทล มีความมุ่งมั่นในการเป็นกำลังสำคัญร่วมขับเคลื่อนและผลักดันเศรษฐกิจไทย รวมไปถึงการส่งเสริมการกระจายรายได้คืนสู่คนไทยทุกระดับ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยและกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ เป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญ เพื่อให้ครัวเรือนและชุมชนสามารถพึ่งพาตนเอง มีรายได้และเติบโตอย่างยั่งยืน โดยการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน และรับซื้อตรงสินค้าทางการเกษตร รวมทั้งมีการเปิดตลาดจริงใจ FARMERS' MARKET ตลาดรูปแบบใหม่ที่เรามีความตั้งใจสร้างให้เป็นแหล่งรวม ผัก ผลไม้ปลอดภัย ปลอดสารพิษ และของดีประจำจังหวัด เพื่อให้เกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อยมีพื้นที่จำหน่ายสินค้า ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างสูงทั้งการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการให้สามารถยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างรายได้ สร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรกว่า 6,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ และเพื่อช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย สามารถมีตลาดรองรับ ผู้บริโภคมีช่องทางในการซื้อสินค้าที่สะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น จึงมีบริการสั่งซื้อสินค้าผ่านแกร็บมาร์ทบนแอปพลิเคชันแกร็บจากร้านท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์เดลี่, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, แฟมิลี่มาร์ท และ จริงใจ FARMERS' MARKET แฟล็กชิพสโตร์สาขาบางนา ครอบคลุม 952 สาขาในพื้นที่ 37 จังหวัดที่ร้านค้าของเราเปิดให้บริการ"
นางสาวปาริตา ปัทมรังสรรค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการแผนก O2O สายงานการพาณิชย์ โลตัส กล่าวว่า "โลตัส ให้การสนับสนุนเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการซื้อผลิตผลทางการเกษตรโดยตรงจากเกษตรกรโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งนอกจากจะขยายช่องทางการจำหน่ายผักและผลไม้สดผ่านสาขาของเรากว่า 2,100 แห่งทั่วประเทศแล้ว โลตัสยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและยกระดับเกษตรกรในทุกด้านเพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ทั้งด้านเกษตรสมัยใหม่ มาตรฐานความปลอดภัย การสร้างแบรนด์ การตลาด และการเงิน ความร่วมมือกับ แกร็บ ในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีที่โลตัส จะสามารถสานต่อยอดพันธกิจในการช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19"
โครงการ 'ตลาดสดคนไทย (Thai Fresh Market)' โครงการ 2 มีเกษตรกรและร้านค้ารายย่อยที่เข้าร่วมมากกว่า 800 ราย จาก 15 จังหวัดทั่วประเทศ อาทิ กรุงเทพฯ นครปฐม นครสวรรค์ ภูเก็ต โดยจำแนกสินค้าทั้งหมดออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ โดยสามารถสั่งซื้อผ่านบริการแกร็บมาร์ท (GrabMart) บนแอปพลิเคชันแกร็บ (Grab) ด้วยบริการส่งไวภายใน 25 นาที และเพื่อเป็นกระตุ้นการสร้างยอดขายเพื่อสนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการ มอบส่วนลดให้ผู้ใช้บริการใหม่สูงสุด 40% เมื่อสั่งขั้นต่ำ 200 บาท โดยใช้โค้ดส่วนลด "FARM" และส่วนลดสูงสุด 180 บาท สำหรับผู้ใช้บริการปัจจุบัน เมื่อสั่งขั้นต่ำ 650 บาท โดยใช้โค้ดส่วนลด "FRESH180" ตั้งแต่วันนี้ ถึง 22 สิงหาคม 2564
เกี่ยวกับแกร็บ
แกร็บ (Grab) คือ ผู้นำด้านซูเปอร์แอปที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันให้กับผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันแอปพลิเคชันแกร็บได้ถูกดาวน์โหลดแล้วบนโทรศัพท์มือถือมากกว่า 214 ล้านเครื่อง ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงพาร์ทเนอร์คนขับ พาร์ทเนอร์ร้านค้า รวมถึงตัวแทนกว่าหลายล้านราย โดยนำเสนอบริการต่างๆ แบบออนดีมานด์ ไม่ว่าจะเป็น การเดินทาง การจัดส่งอาหาร สินค้าและพัสดุ ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนบริการทางการเงิน เพื่อตอบสนองผู้ใช้บริการทั่วทั้ง 428 เมืองใน 8 ประเทศ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแกร็บได้ที่ www.grab.com