'บมจ.เซ็ปเป้' หรือ SAPPE ผู้นำด้านนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มร่วมมือ Collaboration ครั้งแรกกับแบรนด์อันเป็นตำนาน 'ตะขาบ 5 ตัว' พัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสมุนไพรแบบขวดช็อต "SAPPE x Takabb" จัดเต็มสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการระคายคอ รุกสร้างความแปลกใหม่ในตลาด Functional Herbal Drink พร้อมขยายสู่กลุ่ม Consumers Gen Y และ Z จำหน่ายแล้วที่ 7-11 ทุกสาขา ราคา 29 บาท ตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้านบาทในปีแรก
นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสมุนไพรไทยในกลุ่มอาหารเสริมที่บริโภคในประเทศและการส่งออกมีมูลค่าเฉลี่ย 80,000 ล้านบาท Product Champion ของสมุนไพรในประเทศไทย ได้แก่ ไพล กระชายดำ ขมิ้นชัน ใบบัวบก (อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์) โดยในครั้งนี้นับเป็นการร่วมมือระหว่างแบรนด์ผู้นำด้านนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มอย่าง SAPPE และแบรนด์อันเป็นตำนานอย่าง บริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่างแบรนด์ตะขาบ 5 ตัว ซึ่งเป็นยาสามัญประจำบ้านที่มีมานานร่วม 86 ปี ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ และเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุดใน Category ตัวเอง จึงได้ต่อยอดสู่การทำ Collaboration ผ่านผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร SAPPE x Takabb
ด้วยจุดเด่นของตัวผลิตภัณฑ์ ที่ผลิตจากสารสกัดสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการระคายคอได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ หล่อฮั่งก๊วย มะขามป้อม ชะเอมเทศ และมะนาว ซึ่งเป็นสมุนไพรที่คนไทยรู้จักและทราบถึงคุณประโยชน์ดี ในรูปแบบของขวดแก้วช็อตขนาด 50 มล. ดื่มง่าย ตอบโจทย์ให้ความชุ่มคอ ช่วยให้หายระคายคอ หรือเสริมความมั่นใจในการใช้เสียงของผู้บริโภค และยังคงเอกลักษณ์ (Identity) ของแบรนด์ตะขาบ 5 ตัวไว้ชัดเจน ถือเป็นการสร้างความแปลกใหม่ในตลาด Functional Herbal Drink โดยมีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทุกสาขา ราคา 29 บาท รวมถึง SAPPE Online และติดตามโปรโมชั่นได้ในเพจ Facebook Sappe x Takabb
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ถือเป็นการสร้างความแปลกใหม่และจะเป็นสีสันในตลาดเครื่องดื่ม พร้อมขยายเข้าไปสู่ผู้บริโภคกลุ่ม Gen Y และGen Z ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่กล้าลองของใหม่ มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย รวมทั้งชอบความมีเอกลักษณ์ของแบรนด์ รวมถึงเพิ่มทางเลือกให้กลุ่มเป้าหมายในรูปแบบที่คุ้นเคย และเป็นการขยายฐานลูกค้าให้แบรนด์ ตะขาบ 5 ตัว
ในขณะเดียวกันกัน แม้ว่าปัจจุบันกลุ่ม Categories F&B ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 แต่มีเพียง Functional Drink Category เท่านั้นที่เติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามบริษัทฯ เชื่อว่าจาก กลยุทธ์ Brand Collabs ที่น่าตื่นเต้นนี้ รวมถึงความแปลกใหม่ของตัวผลิตภัณฑ์ จะสามารถดึงความสนใจของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้พอสมควร และหวังว่าหากมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจีนเข้ามา ผลิตภัณฑ์นี้จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่คนจีนนิยมนำไปเป็นของฝากไม่ต่างจากยาอมตะขาบ 5 ตัว อย่างแน่นอน โดยตั้งเป้าหมายยอดขายจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวประมาณ 100 ล้านบาทในปีแรก
"จุดเริ่มต้นความร่วมมือกับบริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด เกิดจากการที่เรามองเห็นว่าผลิตภัณฑ์ตรา ตะขาบ 5 ตัว มีการทำการตลาดที่ทันสมัยมาอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบอื่น ๆ โดยใช้จุดเด่นและเอกลักษณ์ในยาแก้ไอจากสมุนไพร ในขณะที่ SAPPE เป็นผู้นำสินค้ากลุ่ม Functional Drink ในไทย เราต่างมีจุดแข็งของทั้งสองแบรนด์ และเห็นตรงกันที่อยากให้แบรนด์รุ่นใหญ่อย่างตะขาบ 5 ตัว มาพบกับแบรนด์รุ่นใหม่อย่าง SAPPE เกิดไอเดียเป็น Shot Drink ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้นอีก 1 Category เราปรับ Mood & Tone ให้เป็น Lifestyle Drink เชื่อมโยงและเข้าถึง Consumers Gen Y และ Z ได้มากขึ้น ซึ่งโลโก้ กับ Pattern ของแบรนด์ ตะขาบ 5 ตัว ถือว่าเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นมากๆ อยู่แล้ว เป็นการร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และ Brand Collab ที่น่าตื่นเต้นอีกครั้งหนึ่ง" นางสาวปิยจิต กล่าว
นายสุนทร สิมะวรา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด เปิดเผยว่า แบรนด์ตะขาบ 5 ตัว ถือเป็นธุรกิจยาสมุนไพรแผนโบราณที่มีมายาวนาน 86 ปี โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้รุกขยายเข้าไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ รวมถึงพยายาม Connect กับกลุ่มผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ๆ ซึ่งไม่ใช่แค่การพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์หลัก แต่มองเห็นโอกาสในการผลักดันให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรแผนโบราณเติบโตไปสู่การเป็น Global Brand ในอนาคต ประกอบกับได้รับโอกาสอันดีจากทางผู้บริหาร SAPPE ที่เกิดไอเดีย จนได้ร่วมมือกันทำ Collaboration ผ่านผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำสมุนไพรขวดช็อต นับว่าเป็นการ Collaboration ที่ลงตัวที่สุด
โดยดึงจุดแข็งและความชำนาญของแต่ละบริษัทมารวมกัน โดยผลิตภัณฑ์ SAPPE x Takabb จะนำคุณประโยชน์ของแต่ละสมุนไพรมาผสมให้ลงตัว ให้ความ "เย็น" "ชุ่มคอ" ในแบบที่ผู้บริโภคจะต้องสัมผัสได้ทันทีที่จิบ คงความเป็นตัวตนในรสชาติ (Taste) และTexture ของยาอมตะขาบไว้ด้วย ซึ่งหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะได้รับความสนใจจนกลายเป็นกระแสไปทั่วโซเชียลอย่างแน่นอน