ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ยกระดับหลักสูตรการอบรมด้านดิจิทัลออนไลน์ สนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี (SMEs) ให้ได้เรียนรู้วิธีการใช้โซลูชันดิจิทัลต่างๆ เพื่อให้ก้าวผ่านช่วงวิกฤตโควิด-19 ไปได้ โดยหลักสูตรการอบรมนี้เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการ Smart Business Transformation ดำเนินการโดย เดอะ ฟินแล็บ (The FinLab) และธนาคารยูโอบี ที่ช่วยส่งเสริม เอสเอ็มอีให้ปรับองค์กรและธุรกิจสู่ดิจิทัล
หลักสูตรนี้จะเปิดให้เอสเอ็มอีที่สนใจเข้าร่วมอบรมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ประกอบด้วย 9 คอร์สออนไลน์ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึง เดือนธันวาคม 2564 ครอบคลุมเรื่องวิธีใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อเจาะลึกความต้องการของลูกค้าสำหรับการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และพัฒนาสื่อโฆษณา หัวข้ออบรมที่มีความซับซ้อนขึ้นนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการได้พัฒนาทักษะด้านดิจิทัลให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น เอสเอ็มอีจะได้ทดลองใช้โซลูชันดิจิทัลฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อได้นำไปปรับปรุงกระบวนการทำงาน การสร้างแบรนด์ และการขยายฐานลูกค้า รวมถึงการดึงดูดลูกค้าใหม่ เพิ่มรายได้ ลดต้นทุนการดำเนินงานและการทำการตลาด
การนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินธุรกิจนับเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของธุรกิจเอสเอ็มอี จากผลสำรวจล่าสุดโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พบว่า ธุรกิจขนาดเล็กกำลังเผชิญปัญหามากมายและยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยืดเยื้อ สองในสามกล่าวว่า การทำการตลาดเป็นเรื่องท้าทายเพราะมีการแข่งขันสูง ในขณะที่ร้อยละ 63 ประสบปัญหาสภาพคล่องทางธุรกิจและขาดเงินทุนหมุนเวียน ผลสำรวจยังแสดงการปรับตัวของเอสเอ็มอีต่อการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในกระบวนการทำธุรกิจ โดยร้อยละ 72 นำไปใช้เพิ่มยอดขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ และขยายฐานลูกค้า ร้อยละ 54 ลดค่าใช้จ่าย และร้อยละ 76 พัฒนาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นางสาวปิยพร รัตน์ประสาทพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือข่ายสาขาและบริการดิจิทัล ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า "เราตระหนักถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้เอสเอ็มอียังอยู่รอด และยังได้รับโอกาสอื่นๆ ต่อไปได้ จากผลการวิจัยของธนาคารยูโอบี พบว่าเกือบจะหนึ่งในสามของเอสเอ็มอีได้นำเครื่องมือทางดิจิทัลเข้ามาใช้และได้รับประโยชน์ เช่น ผลผลิตและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น สร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้แก่ลูกค้า และรายได้ที่เพิ่มขึ้น แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากต่อการดำเนินธุรกิจ เรามุ่งหวังว่าหลักสูตรอบรมออนไลน์นี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถกลับมายืนหยัดอีกครั้งได้ และก้าวหน้าบนเส้นทางการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล"
นอกจากหลักสูตรการอบรมออนไลน์ที่ธนาคารจัดขึ้นแล้ว ธนาคารจะเชื่อมโยงเอสเอ็มอีเข้ากับโซลูชันทางธุรกิจและการเงิน เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดการต้นทุนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ยูโอบี บิสสมาร์ท (UOB BizSmart) โซลูชันจัดการธุรกิจครบวงจรบนคลาวด์ ที่รวมการทำงานทุกส่วนของธุรกิจ อาทิ ระบบจัดการข้อมูลพนักงานและจ่ายเงินเดือนอัตโนมัติ การทำบัญชี การจัดการคลังสินค้าและสินค้าคงเหลือ บริการยูโอบี เวอร์ชวล แอคเคาท์ (UOB Virtual Account) โซลูชันครบวงจรที่ออกแบบเพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีระบุการจ่ายเงินของคู่ค้าได้ทั้งหมด กระทบยอดคู่ค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือ ยูโอบี เอ็มคอลเลกท์ (UOB mCollect) โซลูชันดิจิทัลที่มุ่งช่วยในการจัดการการเรียกเก็บเงินและจัดการบริหารบัญชีลูกหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้ประกอบการที่เข้ารับการอบรมหลักสูตรออนไลน์นี้ ยังจะได้รับคำแนะนำจาก เดอะ ฟินแล็บ (The FinLab) หน่วยงานบ่มเพาะด้านนวัตกรรม ในการขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ดิจิทัลอีกด้วย
นายปวิตร หมื่นคง ประธานบริษัทดอลลี่ โซลูชัน ผู้พัฒนาระบบลานจอดรถและผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์จราจร
แบรนด์ DPARK กล่าวว่า "เราได้เข้าร่วมการอบรมออนไลน์ของธนาคารยูโอบีตั้งแต่ปีที่แล้วอยู่หลายครั้ง และได้เรียนรู้หัวข้อที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับธุรกิจเป็นจำนวนมาก เรายังได้ใช้โซลูชันที่หลากหลาย เช่น การทำการตลาดผ่านอีเมลซึ่งช่วยให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ในขณะเดียวกันก็สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดได้
ปีนี้เป็นปีที่สองแล้วที่ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จัดหลักสูตรการอบรมออนไลน์เพื่อช่วยนำทางให้ผู้ประกอบการในสถานการณ์โควิด ปีที่แล้วธนาคารร่วมกับพันธมิตร 13 แห่ง จัดหลักสูตรการอบรม 39 โครงการ โดยมีผู้ประกอบการจากหลากหลายอุตสาหกรรมเข้าร่วมกว่า 1,800 ราย
ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/uob.th หรือ https://thefinlab.com/th/thailand