audacity เผยแนวคิดการทำงานปี 2021 มองหา "ลูกค้าที่กล้าและบ้าอย่างมีเหตุผล" เจาะกลุ่มเจ้าของธุรกิจ SME คนรุ่นใหม่ ชูกลยุทธ์การเป็นมากกว่าเอเจนซี่โฆษณา พร้อมเป็นที่ปรึกษานำความคิดสร้างสรรค์มาพลิกธุรกิจแบบครบวงจร ตั้งเป้าโต 40 ล้านบาทภายใน 3 ปี
รูปแบบการทำงานวิถีใหม่และความกล้าที่จะแตกต่างคือรากฐานของการก่อตั้งบริษัท audacity ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของคน 4 คนที่มีแนวคิดที่แตกต่างแต่มุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือกล้าที่จะดิสรัปตัวเองให้ทันโลกและต่างจากรูปแบบการทำงานของเอเจนซี่โฆษณา นำความคิดสร้างสรรค์ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการทำงานเข้ามาใช้ในทุกขั้นตอน โดยเริ่มต้นธุรกิจในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อกลางปี 2020 นำทีมโดยสองผู้ก่อตั้ง จอน เฉลิมวงค์(Chief Creative Officer) และ พิชัยพัชร์ ตนานนท์ (Managing Director) พร้อมด้วยทีมผู้บริหาร วิศวุฒิ นุชพุ่ม (Business Development Director) และ พิสุทธิ์ นิโรจศิล (Creative Director) เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดที่เป็นมากกว่าบริษัทโฆษณาทั่วไป
จอน เฉลิมวงค์ ผู้ผ่านประสบการณ์ทำงานในวงการครีเอทีฟกว่า 20 ปี ทั้งเอเจนซี่ชั้นนำในประเทศและต่างประเทศ เป็นตัวแทนถ่ายทอดเรื่องราวของ audacity ตั้งแต่เริ่มแรกว่า "ผมอยู่วงการโฆษณามานาน เห็นการเปลี่ยนแปลงในการทำการตลาดของลูกค้าในช่วงโควิด-19 เมื่อต้นปี 2020 ไม่เหมือนครั้งไหนๆ เห็นธุรกิจโฆษณาถูก ดิสรัป บทบาทของเอเจนซี่ในการช่วยเหลือแบรนด์เริ่มถูกลดทอนลง หลายๆ แบรนด์เริ่มมีการสร้างแผนก in-house เพื่อผลิตชิ้นงานโฆษณาด้วยตัวเอง คนจากบริษัทโฆษณาผันตัวไปเป็นนักการตลาดและดูแลแบรนด์เอง ในวิกฤตนี้ผมเห็นโอกาส ในการทำธุรกิจด้วยการนำความคิดสร้างสรรค์มาเป็นหัวใจในการทำงาน และรู้สึกเสียดายที่เอเจนซี่ส่วนมากใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสื่อสารเท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้วเราสามารถนำมาใช้ในการกำหนดแผนการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาทางธุรกิจไปจนถึงการขยายตลาด ด้วยการปักหมุดเป็น Creative Solution and Marketing Consultant ที่ไม่ยึดติดรูปแบบการสื่อสารแบบเดิมๆ แต่โฟกัสที่ผลลัพธ์ทางธุรกิจ
หัวใจของการทำงานที่ audacity คือการไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ เรามีทีมงานที่มีความสามารถหลากหลายด้าน (Multitasking) อาทิ Creative Director สามารถเป็นทั้ง Art Director และยังสามารถกำกับหนังโฆษณาได้ด้วย หรือ Art Director ของเราก็สามารถเป็น Content Writer และ Illustrator ได้ในคนเดียวกัน จึงทำให้รูปแบบการทำงานของ audacity มีความคล่องตัวสูงสามารถตอบสนองโจทย์ทางการตลาดที่ได้มาอย่างรวดเร็ว เราทำงานกับลูกค้าไม่เหมือนกับเอเจนซี่ เราตัดลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน มีการปรับวิธีการทำงานกับลูกค้าให้เข้ากับสถานการณ์และพร้อมแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วไม่ให้ข้อจำกัดเรื่องงบประมาณของลูกค้ามาเป็นอุปสรรค เราไม่ล็อกลูกค้าด้วยจำนวนชิ้นงาน แต่ยึดเป้าหมายทางธุรกิจเป็นสำคัญ
audacity วางกลุ่มเป้าหมายไว้ตั้งแต่แบรนด์ใหญ่และกลุ่มลูกค้า SME ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีโมเดลทางธุรกิจที่ไม่เหมือนบริษัทโฆษณาทั่วไป ได้แก่
หลักในการทำงานของ audacity คือตั้งเป้าเป็น Creative Solution and Marketing Consultant ให้แบรนด์ที่มีความกล้าและมีความเชื่อว่าไอเดียเป็นหัวใจของการทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็น SME ที่กำลังมาแรงอย่างYuedpao แบรนด์เสื้อยืดสัญชาติไทยที่เล่าเรื่องราวผ่านสโลแกนกวนๆ "ยังง๊ายย? ก็ไม่ย้วย" จนมียอดเข้าถึงสูงกว่า 4,774,387 หรือ BenzStarFlagตัวแทนจำหน่ายอันดับ 1 ของ Mercedes-Benz อย่างเป็นทางการกับแคมเปญ PrivateShowroomที่เปิดประสบการณ์เดินชมรถคนเดียวทั้งโชว์รูม ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้มีผู้สนใจโทรนัดเข้ารับบริการกว่า 60 ราย และมียอดจองรถยนต์ 6 คัน ภายใน 2 สัปดาห์ หรือลูกค้า Ducati Thailand ที่ต้องการพลิก แบรนด์และสร้างความเชื่อมั่นให้กับ Ducatista ทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีมูลนิธิและหน่วยงานราชการอย่าง มูลนิธิรามาธิบดี และผลงานล่าสุดที่กำลังสร้างกระแสโซเชี่ยลมีเดียกับแคมเปญ "ความคิดถึง" ออนไลน์วีดิโอที่ออกมาสร้างกำลังใจให้คนไทยในช่วงเวลาวิกฤติ
"เราอยากใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำประโยชน์ให้กับสังคมบ้างโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน เราคิดกันอยู่นานมากว่าช่วงเวลาไหนคือช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดที่จะปล่อยไอเดียนี้ ในสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลและแน่นอนย่อมมีความคิดเห็นแตกต่างเกิดขึ้นได้ แต่เราเชื่อว่าเจตนาที่อยากให้กำลังใจคนในช่วงเวลาวิกฤตินี้เป็นสิ่งสำคัญ และมันเป็นการตอกย้ำว่าไม่ใช่แค่ audacity ที่เชื่อว่าสังคมต้องการกำลังใจ เรายังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากค่ายเพลง สถานที่ถ่ายทำและรูปถ่ายต่างๆ ว่าเรากล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องร่วมกัน" จอน เฉลิมวงค์ กล่าวเสริม
ติดตามชมวีดิโอได้ที่ https://fb.watch/v/7S49oQ-Sz/ และ https://youtu.be/eKcbje6YOlM