ผู้ถือหุ้น EP อนุมัติเป็นเอกฉันท์ส่งบริษัทย่อย E-COGEN ซื้อหุ้น SSUT ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมและไอน้ำร่วมกันในระบบ Cogeneration กำลังผลิตไฟฟ้า 240 MW และไอน้ำ 60 ตัน จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม เพิ่มอีก 40% โดยใช้เงินลงทุน 2.10 พันล้านบาท ดันสัดส่วนการเพิ่มเป็น 80.96% ฟาก "ยุทธ ชินสุภัคกุล" เผยมีอำนาจควบคุมการบริหารจัดการเบ็ดเสร็จ ระบุสามารถรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นทันที หนุนกำไรโตก้าวกระโดด
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (EP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 ในวันที่ 4 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติเป็นเอกฉันท์ให้บริษัท อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น จำกัด (E-COGEN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EP เข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท เอสเอสยูที จำกัด (SSUT) ซึ่งเป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก ระบบพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration) เพิ่มจากผู้ขาย 2 ราย จำนวนทั้งสิ้น 11,676,000 หุ้น หรือคิดเป็น 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ชำระแล้ว รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,107,793,760 บาท เป็นการซื้อหุ้นสามัญของ SSUT จากบริษัท คอมลิงค์ จำกัด 15% และบริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี่ จำกัด (มหาชน) (EE) 25% โดยภายหลังการเข้าทำรายการ บริษัทฯจะมีสัดส่วนการถือหุ้นโดยตรงและโดยอ้อมผ่าน E-COGEN ใน PPTC จำนวนทั้งสิ้น 50.70% และSSUT จำนวนทั้งสิ้น 80.96%
"ต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่มีมติอนุมัติเป็นเอกฉันท์สำหรับแผนการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น SSUT ในครั้งนี้ และมั่นใจว่าการลงทุนในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ผู้ถือหุ้นในอนาคต เนื่องจาก EP จะรับรู้รายได้เข้ามาทันที ในงบการเงินรวม จากการเป็นถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนเกิน 50% และมีอำนาจควบคุมในการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าระบบพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration) อย่างเบ็ดเสร็จ ผลักดันกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด"
ทั้งนี้ SSUT เป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก (Small Power Producer : SPP) ระบบพลังงานความร้อนร่วม(Cogeneration) กำลังการผลิตสูงสุดรวมประมาณ 240 MW (มี 2 หน่วยการผลิตกำลังการผลิตหน่วยละ120 MW) และไอน้ำกำลังการผลิตสูงสุดประมาณ 60 ตันต่อชั่วโมง ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ
ส่วน PPTC เป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก (Small Power Producer : SPP) ระบบพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration) กำลังการผลิตสูงสุดรวมประมาณ 120 MW และไอน้ำกำลังการผลิตสูงสุดรวมประมาณ 30 ตันต่อชั่วโมง ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ EP ประกอบธุรกิจเข้าลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยมีประเภทของธุรกิจที่บริษัทฯเข้าลงทุนดังนี้ 1.ธุรกิจผลิตสิ่งพิมพ์ที่ดำเนินธุรกิจโรงพิมพ์ในลักษณะครบวงจร ตั้งแต่การผลิตจนกระทั่งเข้าเล่มเป็นสิ่งพิมพ์สำเร็จรูป และธุรกิจสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับรรจุภัณฑ์กระดาษสำหรับอาหารและประเภทกล่องลูกฟูก และ 2.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ บริษัทฯมีการลงทุนในบริษัทร่วม ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า และไอน้ำ แบบพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration)