ทุเรียนรสเนยมาตรฐาน GAP แห่งแรกจังหวัดชัยภูมิ

ข่าวทั่วไป Friday August 6, 2021 14:16 —ThaiPR.net

ทุเรียนรสเนยมาตรฐาน GAP แห่งแรกจังหวัดชัยภูมิ

ในช่วงนี้เป็นต้นไปจนถึงเดือนตุลาคม หากใครมีโอกาสผ่านไปที่อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ไม่ควรพลาดที่จะไปลิ้มรสทุเรียนรสชาติคล้ายเนยที่สวนนราทอง ซึ่งเป็นสวนทุเรียนแห่งแรกของจังหวัดชัยภูมิที่ได้รับการรับรองแหล่งผลิตตามมาตรฐาน GAP จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรชัยภูมิ กรมวิชาการเกษตร เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564 โดยมีนายธงชัย นราทอง และนางสอาด นราทอง เป็นเจ้าของสวนทุเรียนซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะมาเป็นสวนทุเรียนในวันนี้ เจ้าของสวนรายนี้เคยประกอบอาชีพค้าขายแตงโมมาก่อนที่จะเริ่มปลูกทุเรียนในปี พ.ศ. 2556 เนื่องจากอำเภอเทพสถิตมีสภาพพื้นที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของทุเรียน และยังเป็นพืชที่เป็นที่ต้องการของตลาดและให้ผลตอบแทนสูง โดยเริ่มต้นจากปลูกทุเรียนในพื้นที่ 200 ไร่ ซึ่งขั้นตอนแรกของการผลิตทุเรียนให้ประสบผลสำเร็จนั้นนายธงชัยบอกว่าจำเป็นต้องมีการจัดการเรื่องระบบน้ำที่ดีจึงติดตั้งระบบน้ำแบบสปริงเกอร์ และขุดบ่อน้ำขนาดพื้นที่ 14 ไร่ จากอีกฝั่งของสวนเพื่อส่งน้ำมายังสวนทุเรียนให้เพียงพอต่อความต้องการน้ำในแต่ละช่วงการเจริญเติบโต โดยมีการให้น้ำวันเว้นวันประมาณ 2 ชั่วโมง อัตรา 140 ลิตร/ต้น

นายธงชัยได้เรียนรู้วิธีการปลูกและดูแลแก้ไขปัญหาภายในสวนทุเรียนเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน GAP จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรชัยภูมิ โดยปัญหาที่พบในการผลิต ได้แก่ ระยะออกดอกจนถึงการติดผล การหลุดร่วงของผลทุเรียน ซึ่งแนวทางแก้ไขคือต้องระวังไม่ให้ทุเรียนแตกใบอ่อน โดยพ่นปุ๋ยน้ำทางใบอัตรา 20 ลิตร /น้ำ 1,000 ลิตร ตัดแต่งทรงพุ่มไม่ให้เกิน 5 เมตร และมีการตัดยอดเพื่อไม่ให้ต้นทุเรียนสูงเกินไปซึ่งจะทำให้ยากต่อการจัดการและเก็บเกี่ยวผลผลิต มีการสำรวจโรคแมลงอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการใช้สารเคมีเท่าที่จำเป็นตามคำแนะนำ และเก็บเกี่ยวผลผลิตในระยะปลอดภัย

นอกจากนี้ นายธงชัยยังมีเทคนิคในการนับวันเก็บเกี่ยวทุเรียน โดยการจดบันทึกตั้งแต่ดอกบาน นับไป 110-120 วัน จึงทำการเก็บเกี่ยวผลผลิต และก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิตจะงดใช้สารเคมีประมาณ 2 สัปดาห์ ข้อควรระวังช่วงติดผลคือหากพบเพลี้ยแป้งที่ผลทุเรียน ผิวผลจะมีสีดำ ไม่ได้คุณภาพ ส่งผลกระทบต่อการส่งออก ซึ่งทุเรียนที่จะส่งออกไปประเทศจีนมีการกำหนดมาตรฐานด้านคุณภาพตามมาตรฐาน GAP โดยช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตจะมีล้งจากจังหวัดจันทบุรีเข้ามารับซื้อผลผลิตที่ความสุก 75-80 เปอร์เซ็นต์ และหลังจากที่ต้นทุเรียนให้ผลผลิตหมดแล้วจะทำการบำรุงต้นทุเรียนให้อุดมสมบูรณ์เพื่อรองรับการติดดอกออกผลในปีต่อไป

ทุเรียนพันธุ์หมอนทองของสวนนราทองมีเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนสวนทุเรียนที่ใด คือ ไม่มีกลิ่นฉุน รสชาติหวานหอม เนื้อละเอียด ไม่มีเส้นใย เมื่อรับประทานแล้วจะมีรสชาติคล้ายเนย จึงเป็นที่นิยมของผู้บริโภค และเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ โดยผลผลิตทุเรียนที่สวนนราทองจะส่งออกไปประเทศจีน จำหน่ายในราคา 140 บาท/กิโลกรัม ขายแบบรวมเกรด โดยเกรด A น้ำหนักผลเฉลี่ย 4-6 กิโลกรัม เกรด B น้ำหนักผลเฉลี่ย 3-4 กิโลกรัม และเกรด C น้ำหนักผลเฉลี่ย 2 กิโลกรัม ซึ่งในปี2564 นี้ผลผลิตที่สวนนราทองมีจำนวนทั้งหมดประมาณ 80 ตัน โดยเฉลี่ยแล้วนายธงชัยมีรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตทุเรียนประมาณ 11.2 ล้านบาท / ปี

นายสุพจน์ สัตยากุล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรชัยภูมิ กล่าวว่า การตรวจประเมินและให้การรับรองแหล่งผลิต GAP เป็นอีกหนึ่งภารกิจของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรชัยภูมิ เพื่อให้เกษตรกรสามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ข้อกำหนดได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมทั้งยังได้เข้าไปให้ความรู้การผลิตและแนวทางในการขอรับรองตามมาตรฐานระบบคุณภาพ GAP ซึ่งที่สวนนราทองแห่งนี้นอกจากเจ้าของสวนจะภาคภูมิใจที่สามารถผลิตผลผลิตที่มีคุณภาพปลอดภัย และมีรสชาติดีเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนที่ใดทำให้ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน GAP เป็นแห่งแรกของจังหวัดชัยภูมิแล้ว ที่สวนแห่งนี้ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจในการผลิตทุเรียนให้มีคุณภาพและได้มาตรฐานเข้ามาเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการปลูกทุเรียนอีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ