บมจ.ที เอส ฟลาวมิลล์ (TMILL) เปิดผลงานไตรมาส2/64 ไม่ทำให้ผิดหวัง! โกยกำไร 34.43 ล้านบาท โตสนั่น 44.6% จากงวดเดียวกันปีก่อน หลังรายได้จำหน่ายแป้งสาลีเพิ่มขึ้น 6.0% ขณะที่รายได้จากการจำหน่ายรำข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 3.8% ด้านอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3.86% มาอยู่ที่ 74.92% ขณะที่งวด 6 เดือนแรก กำไรพุ่งแตะ 81.28 ล้านบาท
นางแววตา กุลโชตธาดา รองผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) (TMILL) โรงงานโม่แป้งสาลีรายใหญ่และมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในประเทศ เปิดเผยว่าผลประกอบการในไตรมาส2/2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 34.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.61 ล้านบาท หรือคิดเป็น 44.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 23.81 ล้านบาท
ด้านรายได้จากการจำหน่ายในไตรมาส2/2564 อยู่ที่ 374.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการจำหน่ายอยู่ที่ 340.76 ล้านบาท โดยที่รายได้จากการจำหน่ายแป้งสาลีเพิ่มขึ้น 6.0% และรายได้จากการจำหน่ายรำข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 3.8% ทั้งนี้มาจากปริมาณจำหน่ายแป้งสาลีและรำข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 4.8% และ 13.7% ส่วนราคาจำหน่ายแป้งสาลีและรำข้าวสาลีเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.5% และ 20.8% ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส2/2564 สูงขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับไตรมาส2/2564 นี้ บริษัทฯ มีอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 74.92% เพิ่มขึ้น 3.86% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ในไตรมาส2/2564 เพิ่มขึ้น 11.80 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากค่าขนส่งสินค้า ค่าส่งเสริมการขาย เงินบริจาคและตอบแทนสังคม เงินเดือนและสวัสดิการของพนักงาน และหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น
ขณะที่ผลประกอสบการของบริษัทฯ ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 81.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.03 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิยู่ที่ 67.24 ล้านบาท เป็นผลจากบริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่ายเพิ่มขึ้นเป็น 763.82 ล้านบาท คิดเป็น 7.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 712.05 ล้านบาท โดยที่รายได้จากการจำหน่ายแป้งสาลีเพิ่มขึ้น 0.3% และรายได้จากการจำหน่ายรำข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 7.0% เนื่องจากปริมาณจำหน่ายแป้งสาลีและรำข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 4.8% และ7.2% แต่ราคาจำหน่ายแป้งสาลี เฉลี่ยลดลง 0.8% ส่วนรำข้าวสาลีเฉลี่ยสูงขึ้น 19.1%
นางแววตา กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น 2.2% ในงวดครึ่งปีแรกปี 2564 เป็นผลมาจากราคาจำหน่ายรำข้าวเฉลี่ยสูงขึ้น อีกทั้งยังมีการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยใน 6 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 77.30% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่73.76%
ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 เพิ่มขึ้น 15.74 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อน เนื่องจากค่าขนส่งสินค้า ค่าส่งเสริมการขาย เงินบริจาคและค่าตอบแทนสังคม เงินเดือนและสวัสดิการของพนกงาน และหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น