บมจ.เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ (NCL) ไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวัง โชว์งบไตรมาส 2/64 พลิกมีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 21.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 222.18 % จากงวดเดียวของปีก่อนขาดทุนก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 17.46 ล้านบาท และยอดสะสม 6 เดือน ปี 2564 มีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 44.71 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 381.82% จากงวด 6 เดือนของปีก่อน ซึ่งมีผลขาดทุนก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 15.87 ล้านบาท บอร์ดอนุมัติจัดตั้งบริษัทร่วมทุนพันธมิตร ลุย "โปรเจกต์กัญชง-กัญชา" โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ต่อยอดธุรกิจ ด้าน "พงษ์เทพ วิชัยกุล" เชื่อครึ่งปีหลังธุรกิจสดใส อานิสงส์ขนส่งโลจิสติกส์ขาขึ้น ดีมานด์คอนเทนเนอร์ทะลัก ปริมาณการค้าโลกขยายตัวได้ดี แถมได้บริษัทย่อยหนุน ระบุจากนี้อนาคต NCL จะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น จากธุรกิจที่ขยายตัวอย่างโดดเด่น เดินหน้าขยายธุรกิจ Non-logistic เพิ่มศักยภาพในอนาคตให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น มั่นใจผลงานปี 64 "เทิร์นอะราวด์" เต็มรูปแบบ
นายพงษ์เทพ วิชัยกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (NCL) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/64 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564) พลิกกลับมามีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 21.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 222.18 % จากงวดเดียวของปีก่อนขาดทุนก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 17.46 ล้านบาท และยอดสะสม 6 เดือน ปี 2564 มีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 44.71 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 381.82% จากงวด 6 เดือนของปีก่อน ซึ่งมีผลขาดทุนก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 15.87 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวม 6 เดือนสะสมอยู่ที่ 691 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.27% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 48.23 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากบริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้จากการให้บริการขนส่งเพิ่มขึ้น และสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดี จึงทำให้มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 57.76%
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังทยอยรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ผ่านบริษัทย่อยที่ประเทศสิงคโปร์ และบริษัท แอลจี คอนเทนเนอร์ ไลน์ พีทีอี แอลทีดี (LG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทำธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเล โดยเป็นเจ้าของตู้คอนเทนเนอร์เอง และเป็นตัวแทนแต่งตั้งจากต่างประเทศในการนำเข้าและส่งออกสินค้า
ปัจจุบัน LG มีตู้คอนเทนเนอร์เป็นของบริษัทเองจำนวน 500 ตู้ และได้เช่าตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มอีกประมาณ 1,500 ตู้ เป็นสัญญาเช่าระยะยาว รวมมีตู้คอนเทนเนอร์ทั้งสิ้น 2,000 ตู้ อีกทั้งมีพื้นที่ระวางเรือรองรับการให้บริการขนส่งสายเรือได้ในระยะยาว จึงทำให้ได้รับประโยชน์ด้านการบริการแก่ลูกค้า ส่งผลให้บริษัทฯ มีขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น
ในส่วนของธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำยาฟอกเลือดผู้ป่วยโรคไตด้วยเครื่องไตเทียม ภายใต้ บริษัท เกรซ วอเทอร์ เมด จำกัด (GWM) ที่ NCL ถือหุ้นในสัดส่วน 52.8% ขณะนี้ได้ขยายฐานลูกค้าศูนย์ฟอกไตเพิ่มขึ้นเป็น 100 แห่ง และมีกำลังการผลิตน้ำยาล้างไตได้ 1.2 แสนแกลอนต่อเดือน คาดว่าจะสร้างรายได้เฉลี่ย 100 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งได้สร้างโรงงานผลิตแอลกอฮอล์ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานปี 2564 มีผลประกอบการที่ดีขึ้นได้
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นกว่าครึ่งปีแรก ตามแนวโน้มธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ที่ขยายตัวตามสถานการณ์การค้าโลก และธุรกิจบริษัทย่อยหนุน ซึ่งส่งผลบวกโดยตรงต่อ NCL ทั้งในแง่ของรายได้ และกำไรที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีแผนในการขยายธุรกิจด้าน Non-Logistic ที่มีศักยภาพในอนาคต อาทิเช่น ธุรกิจ Digital Content รวมถึงการเข้าร่วมประมูลงานต่างๆ จากภาครัฐ และโปรเจกต์กัญชง-กัญชา เพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
"ผลประกอบการของบริษัทฯในปีนี้พร้อมกลับมา Turnaround เต็มรูปแบบ ทั้งในส่วนของรายได้ และกำไร ซึ่งมีสัญญาณบวกมาตั้งแต่ไตรมาสแรก สอดคล้องกับสภาวะอุตสาหกรรมการขนส่งโลจิสติกส์ที่เติบโตตามปริมาณการค้าโลกที่มีแนวโน้มดีขึ้นทำให้ NCL ได้รับอานิสค์ตามไปด้วย ประกอบกับบริษัทฯได้เก็บเกี่ยวผลจากการลงทุนในด้านต่างๆ ที่ได้ลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานในปีนี้พลิกกลับมาเป็นบวกได้" นายพงษ์เทพ กล่าวในที่สุด
นายพงษ์เทพ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติเพื่อบันทึกข้อตกลงร่วมทุนกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง เพื่อเตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ในการสนับสนุนส่งเสริมงานวิจัยในเชิงพาณิชย์ ร่วมกับคณะเกษตร มหาลัยเกษตรศาสตร์ โดยลงทุนเรื่องการปลูก สกัด และจำหน่าย กัญชง กัญชา ทางการแพทย์และเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะทำให้ธุริกจของ NCL มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น