บมจ. เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค (KWM) ฟอร์มดีไม่ตก แจ้งผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก ปี 64 โกยกำไรสุทธิ 50.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.84 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 132.17 (YoY) และมีรายได้จากการขาย 309.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115.85 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 59.73 ขณะที่ไตรมาส 2/2564 มีรายได้จากการขาย 156.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.40 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 31.49(YoY) และกำไรสุทธิ 25.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.75 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 51.87 เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจเกษตร หนุนความต้องการใช้อุปกรณ์เครื่องจักรพุ่ง พร้อมปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มเป็น 40% และส่งซิกครึ่งปีหลังเดินเกมรุกธุรกิจกัญชง-กัญชา และ พืชกระท่อม เต็มสูบ
นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM ผู้นำในการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้ในการเกษตรและมีประสบการณ์ด้านงานวิศวกรรมเครื่องกล และผู้นำในการผลิตเครื่องสกัดสารสกัดจากพืชสมุนไพร เปิดเผยถึงบริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการเติบโตของงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 50.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.84 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 132.17 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) มียอดขายเพิ่มขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าใบเกลียวที่เพิ่มขึ้น จากงวดเดียวกันถึงร้อยละ 113.53
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 156.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.40 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 31.49 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(YoY) ขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 25.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.75 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 51.87 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)จาการเติบโตของรายได้จากการขายสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยสนับสนุนเดิมจากไตรมาส 1/2564 ทั้งสภาพอากาศโดยไปที่เอื้ออำนวย ไม่ประสบปัญหาภัยแล้งที่รุนแรง ทำให้สถานการณ์การผลิตพืชดีกว่าปีที่ผ่านมา ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้น จูงใจให้เกษตรกรเพิ่มปริมาณการผลิต โดยภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาสนี้ขยายตัวร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สาขาพืชขยายตัวร้อยละ 2 และสาขาบริการทางการเกษตรขยายตัวร้อยละ 2.5
นอกจากนี้ นางสาวติยาภรณ์ วนโกสุม กรรมการผู้จัดการ กล่าวถึงเพิ่มเติมว่าจากตัวเลขผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกที่ออกมาดี ส่งผลให้บริษัทปรับเป้ารายได้ในปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 40% จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 15-20% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีรายได้ 355.06 ล้านบาท พร้อมทั้งได้วางงบลงทุนไว้กว่า 50 ล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนในคลังสินค้า และเพิ่มเครื่องจักรในการผลิตไลน์ใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นไลน์การผลิตที่ 3 ในระบบออโตเมชั่น ที่สามารถลดการใช้แรงงานและสามารถผลิตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และเพื่อเป็นการสำรองกำลังการผลิตในช่วงที่เครื่องจักรต้องหยุดซ่อมบำรุง ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯในปีนี้สูงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากคำสั่งซื้อที่เข้ามาจำนวนมาก ส่งผลให้บริษัทฯ มีต้นทุนในการผลิตลดลง ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มี Margin เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้กลุ่มบริษัทลูกค้า อาทิ บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีการเพิ่มไลน์การผลิตภายใต้แบรนด์ "ตราช้าง"รวมถึงสินค้าภายใต้แบรนด์ "Pegasus" ซึ่งเป็นตราสินค้าของบริษัทเองที่ผลิตอุปกรณ์การเกษตร อาทิ ใบผาล ใบจักร ใบคัดท้าย โครงผาล ใบดันดิน ใบเกลียวลำเลียง ยังมีการขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตามบริษัทคาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าผลผลิตทางการเกษตรจะมีออกมาค่อนข้างมากเนื่องจากน้ำ ดีและมีคุณภาพ แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ความแปรปรวนของสภาพอากาศ และความผันผวนของเงินบาท
ขณะที่นายอุกฤษณ์ วนโกสุม รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวในฐานะที่ KWM เป็นผู้นำด้านการผลิตเครื่องสกัดระบบ SUPERCRITICAL FLUID CO2 EXTRACTION กัญชง-กัญชา และสมุนไพรไทย สัญชาติไทยเป็นรายแรกของประเทศว่า หลังจากที่บริษัทฯมียอดออเดอร์พร้อมติดตั้งเครื่องสกัดฯเข้ามาแล้วจำนวน10 เครื่องช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจาในการผลิตเครื่องจักรเพื่อติดตั้งและส่งมอบให้กับพันธมิตรรายใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปได้ในเร็วๆนี้ พร้อมทั้งนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการเดินหน้าสกัดสารสกัดจากกัญชง-กัญชา และพืชกระท่อม เพื่อมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์ ยา อาหารและเครื่องดื่ม อย่างต่อเนื่องซึ่งแผนธุรกิจดังกล่าวจะเริ่มเห็นชัดเจนภายในครึ่งปีหลังนี้อย่างแน่นอน