จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อทุกองค์กรทุกคนทั่วโลกมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไปตามแต่ละธุรกิจ เมื่อมีวิกฤติแบบนี้เกิดขึ้น บริษัทไหนที่จะสามารถรับมือหรือฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติหรือแม้กระทั่งเติบโตและออกมาจากวิกฤติในครั้งนี้ได้ ซึ่งสถานการณ์ที่ท้าทายและมีความไม่แน่นอนแบบนี้ แต่ละบริษัทจึงต้องคิดหาวิธีการในการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
คุณภาวัฒน์ โตกะคุณะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พีไฟว์กรุ๊ป กล่าวว่าในการเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ผิดปกติที่เกิดขึ้น ต้องทำให้บริษัทฯ สามารถดำเนินงานไปได้อย่างต่อเนื่อง เราจึงต้องพยายามพัฒนาตนเองให้ยืดหยุ่นให้ได้ เพื่อในอนาคตข้างหน้าหากมีวิกฤติมากระทบอีกก็ทำให้สามารถก้าวออกมาจากวิกฤติดังกล่าวได้ แต่สิ่งสำคัญเรามองว่าองค์กรที่มีความพร้อมจะได้เปรียบมากกว่าองค์กรที่ไม่พร้อม และความพร้อมคือพื้นฐานสำคัญในการบริหารองค์กร เริ่มต้นจากทำให้พนักงานทั้งบริษัทฯ ตระหนักว่าวิกฤติหรือการเปลี่ยนแปลงจะกลายเป็นเรื่องปกติต่อไปในอนาคต และเตรียมตัวให้พร้อมต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น อีกทั้งต้องมีวิสัยทัศน์ความคิดและความกล้าที่จะสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ๆ จากวิกฤติที่เกิดขึ้นอีกด้วย รวมไปถึงความพร้อมในระบบการทำงาน เนื่องจากในช่วงวิกฤติแบบนี้อีกความสำคัญก็คือการดำเนินงานจะต้องไม่หยุดชะงักและสามารถไปต่อได้
ดังนั้นการมีระบบการทำงานที่ดีและความยืดหยุ่นที่พร้อมจะสามารถปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ และในส่วนของพนักงานเองก็จะต้องพร้อมเป็นอย่างมาก นอกจากจะต้องมีทักษะความรู้ที่เหมาะสมแล้วยังจะต้องมีการยืดหยุ่นได้อีกด้วยต่อให้เผชิญกับวิกฤติหรือการเปลี่ยนแปลงเพียงไรก็พร้อมที่จะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและพร้อมที่จะมองหาโอกาสใหม่ๆ เสมอ ที่สำคัญมากที่สุดคือ วัฒนธรรมองค์กรที่พร้อมจะเป็นรากฐานสำคัญในการก้าวผ่านวิกฤติและเติบโตไปด้วยกัน และสุดท้ายก็จะนำไปสู่การเป็นบริษัทฯ ที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง.