บมจ. เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง (GEL) ฟื้นชัด! ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2564 กำไรสุทธิพุ่งแตะ 20.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140.15% จากงวดเดียวกันปีก่อน อานิสงส์ควบคุมต้นทุนได้ดี หลังปรับโครงสร้างองค์กร ฟากซีอีโอ "ธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์" ระบุแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง เน้นกลยุทธ์ควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้กว่า 2,900 ล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้ยาวถึงปีหน้า มั่นใจช่วยผลักดันผลงานปีนี้เทิร์นอะราวด์ ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ได้แน่นอน
นายธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEL เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 20.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140.15% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุนเท่ากับ 51.65 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 0.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีผลขาดทุนเท่ากับ 102.16 ล้านบาท
ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากการบริษัทฯ มีกำไรพิเศษ รวมถึงการควบคุมต้นทุนสินค้าที่มีประสิทธิภาพ และระบบการควบคุมงบประมาณที่ดี ส่งผลให้เกิดต้นทุนต่อหน่วยลดลง ขณะที่การปรับปรุงโครงสร้างองค์กรสามารถควบคุมค่าใช้จ่าย และการบริหารให้มีความเหมาะสม และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
"การดำเนินธุรกิจในครึ่งแรกของปี 2564 มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน และสามารถมีกำไรเติบโตจากงวดเดียวกันปีก่อน แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากภายหลังจากการปรับโครงสร้างองค์กร ทำให้บริษัทฯมีความสามารถในการควบคุมต้นทุนการผลิต และต้นทุนค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเริ่มรับรู้ผลกำไรจากการลงทุนของบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้าที่มีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 จากมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ของภาครัฐที่มีคำสั่งให้หยุดการก่อสร้าง ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าน่าจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในช่วง Q4/2564 เนื่องจากปริมาณงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) อยู่แล้ว กว่า 2,900 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2565 ทำให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2565 จะสามารถฟื้นเทิร์นอะราวด์ได้อย่างชัดเจน จากปริมาณงานในมือกว่า 2,900 ล้านบาท และโดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จะทำให้ในส่วนของโครงการภาครัฐ และเอกชนจะกลับมาขยายการลงทุนได้อีกครั้ง