สังเกตอาการ "โรคเบาหวาน" ในเด็ก
ถ้าพูดถึงโรคเบาหวานหลายคนมักจะคิดว่าเป็นโรคของผู้ใหญ่ แต่ความจริงโรคนี้ก็สามารถพบในเด็กได้เช่นกัน นี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม?..คุณพ่อคุณแม่ถึงควรใส่ใจ และหมั่นสังเกตความผิดปกติของลูกอยู่เสมอ
อย่างแรกเลยคุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เบาหวานในเด็กมีหลายชนิดเหมือนในผู้ใหญ่ แต่ที่เราพบบ่อยในเด็กจะเป็นเบาหวานชนิดที่ 1 รองลงมาก็จะเป็นชนิดที่ 2 และเป็นเบาหวานจากสาเหตุอื่นๆ
เด็กที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 อายุตั้งแต่ 1-2 ขวบ ก็สามารถเป็นได้แล้ว สาเหตุเกิดจากภูมิคุ้มกันร่างกายตัวเองทำลายตับอ่อน การที่เซลล์ตับอ่อนถูกทำลาย จึงทำให้ร่างกายของเด็กไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินที่ทำหน้าที่ในการควบคุมระดับน้ำตาลได้ ทำให้น้ำตาลสูงและอาจเกิดภาวะเลือดเป็นกรดได้
เด็กที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ส่วนหนึ่งเกิดจากกรรมพันธุ์ อีกส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันจากการทานอาหาร ของหวาน หรือน้ำตาลมากเกินไป ทำให้มีน้ำหนักตัวมากหรืออ้วน ส่งผลให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินที่เป็นฮอร์โมนควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย
อาการของเด็กที่อาจเป็นโรคเบาหวานที่คุณพ่อคุณแม่สังเกตได้ เช่น
- ปัสสาวะมากและบ่อย
- ดื่มน้ำมาก
- กินเก่ง แต่น้ำหนักลด หรือมีภาวะอ้วน
- มีปื้นดำหนาที่คอ รักแร้ ขาหนีบ ขัดถูไม่ออก
- มีการติดเชื้อราที่ผิวหนัง
- เด็กบางคนพอเป็นสัก 2-3 อาทิตย์ จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หอบ เหนื่อย เป็นผลมาจากภาวะเลือดเป็นกรด
หากพบอาการผิดปกติดังกล่าวเพื่อความแน่นอน คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพราะถ้าเรารู้แล้วว่าเด็กกำลังเริ่มมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือเป็นเบาหวาน จะได้รีบรักษาเพราะโรคนี้เป็นโรคเรื้อรังตลอดชีวิต ถ้าไม่ดูแลรักษาตั้งแต่ตอนนี้ในอนาคตก็จะมีโรคอื่นๆ แทรกซ้อนตามมา
ซึ่งโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ยังไม่สามารถป้องกัน ส่วนเบาหวานชนิดที่ 2 นั้นสามารถป้องกันได้ หากไม่อยากให้ลูกเสี่ยงเป็นเบาหวาน แนะนำให้ปรับพฤติกรรมการทาน ต้องควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารฟาสต์ฟู้ด ขนม ของหวานต่างๆ และให้ลูกออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งจะช่วยให้น้ำหนักตัวลดลง ส่งผลให้ภาวะดื้ออินซูลินลดลง ก็จะลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้