ธนาคารกรุงไทย และเครือข่ายพันธมิตร เปิดตัวแคมเปญ "Go Travel Go Wellness: Travel and Health Redefined นิยามใหม่แห่งการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ" รองรับการเปิดประเทศ พร้อมสนับสนุน สินเชื่อฟื้นฟูดอกเบี้ยเริ่มต้น 2% และบริการทางการเงิน เพื่อพลิกฟื้นผู้ประกอบการโรงแรม สู่การเป็นผู้ให้บริการด้าน Wellness รูปแบบใหม่โดยใช้ Digital Health Platform นำร่องในพื้นที่ Sandbox อันดามัน-อ่าวไทย
ธนาคารกรุงไทย จับมือศูนย์ส่งเสริมสุขภาพอันดามันและอ่าวไทย มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ กฎบัตรไทยและเครือข่ายพันธมิตร ร่วมพลิกวิกฤตโควิดให้เป็นโอกาสของผู้ประกอบการโรงแรมด้วย Krungthai Package for Wellness Hub โครงการสนับสนุนสินเชื่อและบริการทางการเงินที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ สำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เน้นขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงจากการเป็นผู้ประกอบการโรงแรมแบบดั้งเดิม สู่การเป็นผู้ให้บริการส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Provider) ซึ่งกำลังเป็นตลาดที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด จากความต้องการด้านการดูแลสุขภาพและการป้องกันโรคที่เพิ่มขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด
โครงการความร่วมมือนี้เกิดขึ้นจากการที่หลายภาคส่วนได้เล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางตลาดด้านการดูแลสุขภาพทั่วโลก ที่กำลังมุ่งไปสู่การดูแลสุขภาพเชิงส่งเสริมและป้องกัน (Health Promotion and Prevention) เพื่อลดโอกาสของความเจ็บป่วย
สำหรับประเทศไทยมีจุดแข็งหลายประการ ทั้งความสวยงามของธรรมชาติ มาตรฐานการให้บริการ ของที่พักโรงแรม และความล้ำลึกของศาสตร์แพทย์แผนไทย ดังนั้น จึงเกิดแนวคิดในการสร้างนวัตกรรมการ ให้บริการส่งเสริมสุขภาพที่ผสมผสานความโดดเด่นของไทยในอุตสาหกรรมการบริการ (Hospitality Industry) เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Approach) ที่ส่งเสริมพัฒนาผู้เข้ารับบริการ ทั้งทางร่างกาย จิตใจ จิตวิญญาณ อาหาร และการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
สำหรับนวัตกรรมการให้บริการด้านสุขภาพดังกล่าว เป็นการออกแบบแพคเกจดูแลสุขภาพที่ผสมผสาน ระหว่างการให้คำปรึกษาของทีมที่ปรึกษา ด้านสุขภาพมืออาชีพ (Health & Wellness Consultants) ทั้งชาวไทยและจากต่างประเทศอย่างน้อย 50 คน จากหลากหลายสาขา รวมถึงแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์ ผ่าน B-Healthy Digital Health Platform ซึ่งเป็น Data-Driven Modern Digital Service ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อจุดประสงค์นี้โดยเฉพาะ โดยความร่วมมือระหว่างบริษัท บี-เฮลธี เอเชีย จำกัด และ เครือข่ายพันธมิตร เพื่อเป็นเครื่องมือให้ทุกภาค ส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้ระบบนิเวศน์สุขภาพ (Wellness Ecosystem) ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลด้านสุขภาพ (Health Data)
ตัวระบบมีทั้ง B-Healthy Wellness Marketplace สำหรับฝั่งผู้ให้บริการซึ่งได้แก่ Health Coach และผู้ประกอบการโรงแรม และ Mobile Application สำหรับฝั่งผู้ซื้อแพคเกจ โดยทีม Coach สามารถออกแบบโปรแกรมการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกับรายบุคคล ส่วนการติดตามผลสามารถทำได้ ทั้งการวีดีโอคอลให้คำปรึกษาออนไลน์ การตอบแบบสอบถามสุขภาพ และการบันทึกสัญญาณชีพต่างๆ แบบเรียลไทม์ผ่าน B-Healthy Life Cam ซึ่งใช้เทคโนโลยี AI วัดค่าสัญญาณชีพได้ภายในไม่กี่วินาที เพียงแค่มองกล้องในสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ เมื่อผู้รับบริการเดินทางไปยัง Wellness Hotel ในพื้นที่นำร่องอันดามันและอ่าวไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพคเกจ ก็จะได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ ด้านต่างๆ อย่างใกล้ชิด ภายใต้บรรยากาศอันผ่อนคลาย ในที่พักซึ่งได้รับการรับรอง SHA+
สำหรับเหตุผลในการริเริ่มโครงการนี้ในพื้นที่นำร่องภูเก็ต กระบี่ พังงา และสมุย เนื่องจาก ผู้ประกอบการ ในพื้นที่ดังกล่าวถือได้ว่าได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการปิดประเทศในช่วงโควิด ประกอบกับรัฐบาลมีโครงการ Sandbox อยู่แล้ว ทำให้ง่ายต่อการขยายบริการเพิ่มเติม ภายใต้สภาวะแวดล้อม ที่ปลอดภัย โรงแรมที่พักได้รับมาตรฐาน SHA+ และ Wellness Certification ที่สำคัญ ผู้บริหารโรงแรมกว่า 120 โรงในพื้นที่นำร่องได้มีการเตรียมความพร้อมด้านองค์ความรู้ในการเป็น Wellness Provider มาแล้วระยะหนึ่ง จากการเข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้บริหารเพื่อการเปลี่ยนโรงแรม เป็นโรงแรมส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์ส่งเสริมสุขภาพอันดามันและอ่าวไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กฎบัตรไทย สมาคมการส่งเสริมสุขภาพอันดามันและอ่าวไทย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ เครือข่ายพันธมิตร จึงทำให้เป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมสูงในการดำเนินงาน โดยกลุ่มเป้าหมายในโครงการระยะที่ 1 เน้นไปที่กลุ่มคนไทยวัยทำงานซึ่งต้อง work from home เป็นเวลานาน กลุ่มผู้สูงวัย (Active Aging) และกลุ่มชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในไทย (Expats) เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความต้องการทั้งในด้านการเดินทางท่องเที่ยวและแก้ปัญหาด้านสุขภาพไปพร้อมกัน
การแถลงข่าวในครั้งนี้เป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งของ Thailand National Charter City Talks ครั้งที่ 11 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 3 กันยายน 2564 แบบออนไลน์ เวลา 9.00-12.45 น. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการ ประชาสัมพันธ์ ถึงความพร้อมของธนาคารกรุงไทยและเครือข่ายพันธมิตร ในการสนับสนุนการขับเคลื่อน ธุรกิจใหม่ของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าในภาคการท่องเที่ยวได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และในปัจจุบัน กฎบัตรไทยและเครือข่ายพันธมิตร ได้จัดตั้ง Wellness Program for Thai Wellness ซึ่งต้องการพัฒนากิจการเวลเนสมูลค่าสูง ที่มียอดขายมากกว่า 1 พันล้านบาท ต่อปี โดยเตรียมการ ขยายพื้นที่บริการ ในภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคเหนือ ซึ่งจะเริ่มในเดือน พฤศจิกายน 2564
เครือข่ายพันธมิตรของธนาคารกรุงไทย ประกอบด้วย ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพอันดามันและอ่าวไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กฎบัตรไทย สมาคมส่งเสริมสุขภาพไทย สมาคมโรงแรมที่พักส่งเสริมสุขภาพอันดามันและอ่าวไทย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาพันธ์สมาคมสปาแอนด์เวลเนสไทย และบริษัท บี-เฮลธี เอเชีย จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำในการให้บริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี Digital Health Platform
สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมที่สนใจเข้าร่วมโครงการ Krungthai Package for Wellness Hub สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่ https://krungthai.com/th/krungthai/contact-form/c737 สอบถามข้อมูลติดต่อ Krungthai Contact Center 02-111-1111