โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ (Meli? Chiang Mai) ประกาศแต่งตั้งคุณสุขสันต์ ชุตินธราทิพย์ หรือ "เชฟ บิลลี่" ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ (Executive Chef) และมร. เจย์ ทาดิฟา อาเบียง (Jay Tadifa Abiang) ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม (Director of Food & Beverage)
เชฟ บิลลี่ หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ชาวไทยและ มร. เจย์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มชาวฟิลิปปินส์ ผู้มากประสบการณ์ร่วมสี่ทศวรรษในวงการอาหารและเครื่องดื่ม ถือเป็นผู้บริหารคนสำคัญที่จะดูแลการบริการอาหารและเครื่องดื่มของโรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ ให้มีความโดดเด่นจนห้องอาหารทั้ง 2 แห่งได้เป็นห้องอาหารชั้นเยี่ยมประจำเมืองเชียงใหม่และถูกกล่าวถึงในแผนที่ห้องอาหารยอดนิยมประจำภาคเหนือจากการบริการอาหารที่มีกลิ่นอายของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชื่อเสียงของประเทศสเปน
เชฟ บิลลี่มีประสบการณ์ด้านอาหารมากกว่า 27 ปี ได้เริ่มต้นสู่เส้นทางอาชีพเชฟตั้งแต่ปี 2537 ในตำแหน่งผู้ช่วยพ่อครัวที่ห้องอาหารเลอ บิสโทร (Le Bistro) โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ กรุงเทพฯ (The Ambassador Hotel and Convention Centre Bangkok) โดยเคยเข้าร่วมการแข่งขันทำอาหารเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์หลายรายการระหว่างที่ร่วมงานกับโรงแรมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศหลายแห่ง อาทิ โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท, เอ ลักซ์ชัวรี่ คอลเล็คชั่น โฮเท็ล (Sheraton Grande Sukhumvit, a Luxury Collection Hotel Bangkok), โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ (The Peninsula Bangkok), โรงแรมโลตัส วัน (Lotus One) ประเทศดูไบ, โรงแรมราฟเฟิลส์ สิงคโปร์ (Raffles Singapore), โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะลักซ์ซูรี คอลเลคชั่น กรุงเทพฯ (The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel Bangkok) โรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพ (Le Meridien Bangkok) โรงแรมระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา (Rayong Marriott Resort & Spa) และโรงแรมคอร์ทยาร์ด โดย แมริออท กรุงเทพฯ (Courtyard by Marriott Bangkok) นอกจากนี้เชฟ บิลลี่ยังเคยดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ที่ สกายซิตี้ (SkyCity) โอ๊คแลนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ในเมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ รับผิดชอบดูแลห้องอาหารและห้องเกมส์สำหรับลูกค้าวีไอพี และโรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ (Renaissance Bangkok) โดยก่อนมาร่วมงานกับโรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ เชฟ บิลลี่ได้ร่วมงานกับโรงแรมนิกโก้ กรุงเทพฯ (Hotel Nikko Bangkok) ในตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัวใหญ่
ส่วน มร. เจย์ นั้นมีประสบการณ์ด้านอาหารและเครื่องดื่มยาวนานกว่า 16 ปี โดยเริ่มต้นงานสายอาหารและเครื่องดื่มด้วยการเป็นบาร์เทนเดอร์ที่ ฮานอย เพรซ คลับ (Hanoi's Press Club) หลังจากจบการศึกษาด้านวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยว โรงแรมและห้องอาหารจากเมืองบาเกียวประเทศฟิลิปปินส์ มร. เจย์ เคยเป็นผู้จัดการที่มายเวย์ คาเฟ่ แอนด์ เลานจ์ (My Way Cafe and Lounge) ในฮานอยและผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการห้องอาหาร โอ แล็ก ดู บราซิล (Au Lac Do Brazil) ในโฮจิมินห์ นอกจากนั้น มร. เจย์ยังเคยร่วมงานกับโรงแรมในเครือมีเลียมานานกว่า 9 ปี ได้แก่โรงแรมเดอะ รีด เมเนจ บาย มีเลีย (The Reed Hotel Managed by Meli?) ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ โรงแรมมีเลีย บา วี เมาน์เทน รีทรีท (Meli? Ba Vi Mountain Retreat) ประเทศเวียดนาม ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม โดยก่อนที่ มร. เจย์ จะมาร่วมงานที่โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ในครั้งนี้ เขาเคยดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม ผู้จัดฝ่ายจัดเลี้ยงและผู้จัดการบาร์ ที่โรงแรมมีเลีย ฮานอย (Meli? Hanoi)
"ด้วยประสบการณ์มากมายของเชฟบิลลี่ ที่เคยได้ร่วมงานกับโรงแรมที่มีชื่อเสียงหลายแห่งและประสบการณ์การเปิดโรงแรม ผสานกับความรู้ด้านการบริการอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนของมร. เจย์ที่สั่งสมมาตลอดระยะเวลา 9 ปี จากการร่วมงานกับโรงแรมในเครือมีเลียหลายแห่ง โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่จึงมีความพร้อมที่จะเปิดห้องอาหารเพื่อให้บริการอาหารเลิศรสที่ให้ความสำคัญต่อการทำอาหารที่มีชื่อเสียงตามแบบฉบับของชาวสเปน ประเทศต้นกำเนิดแบรนด์มีเลีย" มร. เอ็ดเวิร์ด อี สนุ๊ก ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมมีเลีย เชียงใหม่กล่าว
โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ตั้งอยู่บนอาคารสูง 22 ชั้น ที่เชื่อมต่อกับอาคาร 7 ชั้นด้านหน้าโรงแรมฯ มีส่วนบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันสำหรับทุกท่าน ทั้งห้องอาหาร บาร์ เลานจ์ และยี่ สปา (YHI Spa) สปาที่เป็นเอกลักษณ์ของเครือ มีเลีย ที่มีห้องทรีตเมนต์ส่วนตัวทั้งหมด 7 ห้อง ห้องออกกำลังกายที่พร้อมไปด้วยอุปกรณ์อย่างครบครัน สระว่ายน้ำ ห้องบอลรูม และห้องประชุมย่อยสำหรับจัดการประชุม สัมมนาทางธุรกิจ หรือเพื่อการพักผ่อนอีก 4 ห้อง
ห้องอาหาร ไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ (Mai Restaurant & Bar) ถือเป็นห้องอาหารที่มีความโดดเด่นมากที่สุด ตั้งอยู่บนชั้น 21 ให้บริการอาหารไทยภาคเหนือแนวร่วมสมัยผสมผสานกับกลิ่นอายของอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเชฟจะเตรียมอาหารแต่ละจานจากครัวแบบเปิด โดยใช้เทคนิคการปรุงอาหารที่ผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างไทยต้นตำรับ แฝงด้วยกลิ่นอายเมดิเตอร์เรเนียนที่เป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์เมนูอันยอดเยี่ยม ส่วนห้องอาหาร ล้านนา คิทเชน (Lanna Kitchen) ให้บริการอาหารเมดิเตอร์เรเนียนต้นตำรับในรูปแบบตลาดที่มีชีวิตชีวาตลอดทั้งวัน