"ก็อต-จิรายุ" แชร์ไอเดีย "สร้างภูมิคุ้มใจ" รับมือความเครียดจัดการอารมณ์ เรียนรู้อยู่กับโควิดด้วยใจที่แข็งแรง ในเสวนาออนไลน์ "ล็อกบ้านไม่ล็อกใจ How to สร้างภูมิ (คุ้มใจ)"
สาวน้อยสาวใหญ่ สาวแท้สาวเทียม มารวมกันตรงนี้!!! มีกำลังใจดีๆ จากสามีแห่งชาติ "ก็อต-จิรายุ ตันตระกูล" ที่อาสามาส่งพลังบวก แชร์ไอเดียในการ "สร้างภูมิคุ้มใจ" รับมือกับความเครียด จัดการกับความทุกข์ เรียนรู้อยู่กับโควิดด้วยใจที่แข็งแรง จากงาน ThaiHealth WATCH Online เวทีออนไลน์ทิศทางสุขภาพคนไทย "ล็อกบ้านไม่ล็อกใจ How to สร้างภูมิ (คุ้มใจ)" จัดโดยศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่าย ธนาคารจิตอาสา ความสุขประเทศไทย และกลุ่ม WeOneness
"ผมอยากแบ่งปันในสิ่งที่ผมปฏิบัติเป็นประจำอยู่แล้ว นั่นคือการหมั่นสังเกตตัวเอง และจดบันทึกในทุก ๆ วัน ว่าตาเห็นอะไร หูได้ยินอะไร จมูกได้กลิ่นอะไร ลิ้นสัมผัสอะไร กายสัมผัสอะไร ใจนึกคิดอะไร ที่ทำสิ่งนี้ทำเพื่อให้เราเข้าใจตัวเองอย่างแท้จริง บางความคิดที่ทำให้เรากดดัน คั่งแค้น เราก็ยังสวมความคิดนั้นไว้เหมือนว่ามันเป็นรางวัล ใส่ไปวันแล้ววันเล่า ยิ่งใส่ยิ่งหนักๆ โดยไม่คิดจะปลดมันออก จริง ๆ แล้วเราก็มีความคิดบวกเข้ามาในหัวเราเหมือนกันนะ แต่เราก็เพิกเฉยต่อมัน นั่นเป็นเพราะเราไม่เคยสังเกตเห็นว่าความคิดที่ผุดขึ้นมาในใจเราน่ะมันขึ้นมาอย่างไรบ้าง ความคิดมันทำงานตลอด เพราะตราบใดที่มีประสาทสัมผัสทั้งหมด ตาเห็น หูได้ยิน มันก็กระทบความคิดทั้งหมด เราต้องลดทอนความวุ่นวายในใจด้วยการมีสติ ทำทุกอย่างอย่างมีสติ เดินอย่างมีสติ ล้างมืออย่างมีสติ แล้วเราก็ยินดีกับทุกสิ่งที่เรามีในวันนี้ ว่าดีแค่ไหนที่แล้วที่เราได้มีชีวิตในวันนี้ได้ทำสิ่งต่างๆ ในวันนี้
อีกอย่างหนึ่งคือเราต้องเซ็ทตัวเองในทุกเช้า สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้ตัวเองเพื่อเชื่อมโยงไปถึงการมีสมดุลที่ดีในชีวิต และสิ่งจำเป็นที่สุดคือต้องตั้งกิจวัตรของเราเอาไว้ ลิสต์ออกมาเลยว่าวันพรุ่งนี้ เราจะทำอะไรบ้าง จะดำเนินชีวิตในแต่ละวันอย่างไร กำหนดเป็นข้อๆ ในสิ่งที่จะทำ และสิ่งที่จะไม่ทำ ซึ่งสิ่งที่จะไม่ทำนี่สำคัญมาก ต้องระบุให้ชัดเลยว่าอะไรที่เราจะไม่ทำเราจะได้ไม่หลงไปกับมัน เมื่อทำได้แบบนี้ชีวิตจะได้ดำเนินไปในทิศทางที่เราเลือกแล้ว อย่างตัวผมตั้งไว้เลยว่าสิ่งที่จะไม่ทำคือเรื่องของโซเชียลมีเดีย จะจำกัดว่าวันหนึ่งจะไม่ให้เกิน 30 นาที และใช้โซเชียลไปกับอะไรที่สร้างสรรค์และเกิดประโยชน์ ถ้าเราบริหารเวลาให้ได้ตามที่เราตั้งไว้ ชีวิตมันจะมีคุณภาพ
และสุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุด คือเราควรรู้วิธีที่จะขจัดทุกข์ให้ตัวเอง เช่น ผมรู้ว่าหนทางที่เดินไป มันเต็มไปด้วยขวากหนาม แต่ผมไม่ได้ด่าขวากหนามพวกนั้น หน้าที่ของผมคือหารองเท้ามาใส่ หาอะไรต่างๆ มาปัดกวาดขวากหนามพวกนั้น สิ่งเหล่านี้คือทักษะที่เราต้องหามาให้ตัวเองตามแต่วิธีของแต่ละคน ซึ่งสิ่งที่ผมยึดปฏิบัติมาโดยตลอดคือตื่นเช้ามาทำสมาธิก่อน นับเป็นการให้อาหารใจ ให้จิตสงบนิ่ง เมื่อจิตสงบนิ่งจะแยกออกว่าอันนี้ความกลัวนะ อันนี้ความกังวลนะ อันนี้ความกล้าหาญนะ เราจะรู้จักที่จะดีดความคิดฟุ้งซ่านออกไปได้ ซึ่งหากเราทำทั้งกระบวนการ เราจะรู้เท่าทันชีวิต ชีวิตจะสมดุล พอมีปัญหาต่างๆ เข้ามา เราก็จะรู้วิธีที่จะจัดการกับมันได้ สุดท้ายนี้อยากส่งกำลังใจไปถึงทุก ๆ ท่าน ขอให้ทุกท่านอดทน ฝ่าฟัน มีพลังใจที่เข้มแข็งที่ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้ครับ"