"ซิมเมอร์ เมตัล สแตนดาร์ด" ผู้นำเทคโนโลยีการผลิตอะลูมิเนียม มาตรฐานยุโรป เตรียมพร้อมรับมือ เลี่ยงความเสี่ยงคลัสเตอร์โรงงาน เติมพลัง (กำลังใจ) ให้พร้อมสู่โควิด ฉีดวัคซีนให้พนักงานครบ 2 เข็มและคนใกล้ชิดในครอบครัวพนักงาน รวมถึงผู้ร่วมงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ให้ได้รับวัคซีนเช่นกัน 100% เพื่อให้การปฏิบัติงานร่วมกัน มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและลดความรุนแรงของการติดเชื้อ พร้อมจัดทำศูนย์พักคอย จำนวน 108 เตียง เพื่อรองรับพนักงานและครอบครัวที่อาจได้รับการติดเชื้อ "พนักงานปลอดภัย โรงงานก็ไปต่อได้"
ดร.พิพัฒน์ โกวิทคณิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิมเมอร์ เมตัล สแตนดาร์ด จำกัด บริษัทผู้นำเทคโนโลยีการผลิตอะลูมิเนียม มาตรฐานยุโรป ด้วยการบริหารที่มีธรรมมาธิบาล ตลอดระยะเวลา 29 ปีที่ผ่านมา เปิดเผยว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเขตพื้นที่จังหวัดอยุธยาและกรุงเทพ ที่เป็นพื้นที่สีแดง ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และอาจเป็นผลให้พนักงานในครอบครัวซิมเมอร์ทั้งที่จังหวัดอยุธยาและกรุงเทพฯ มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้นการดูแลอย่างทั่วถึงจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องรีบลงมือ เพื่อให้ครอบครัวซิมเมอร์ของเราปลอดภัยที่สุด เพราะเมื่อ "พนักงานปลอดภัย โรงงานก็ไปต่อได้"
ในภาวการณ์ระบาดอย่างหนักหน่วงของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกพื้นที่ต่างเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ โดยเฉพาะโรงงานขนาดใหญ่ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงของการเป็นคลัสเตอร์โรงงานที่ยากจะปฎิเสธได้ ซิมเมอร์ฯ จึงเตรียมพร้อมรับมือกับภาวการณ์ระบาด ด้วยการเตรียมพร้อมดูแลพนักงานให้ห่างไกลจากความเสี่ยงมากที่สุด เพราะไม่เพียงแค่พนักงานจะปลอดภัย แต่โรงงานก็สามารถไปต่อได้เช่นกัน
สิ่งแรกที่เรากำหนดให้เป็นมาตรการหลักที่พนักงานทุกคนของเรา ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด คือ ตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานทุกคนก่อนเข้าเริ่มงาน ด้วยระบบวัดอุณหภูมิอัตโนมัติ, การตรวจเชิงรุก 100% อย่างต่อเนื่อง (ATK), สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา, ล้างมือด้วยสบู่ หรือ เจลแอลกอฮอล์ มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ทั่วทั้งโรงงาน และเว้นระยะห่าง งดการรวมกลุ่มพูดคุยในเวลารับประทานอาหารกลางวัน
ดร.พิพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า แต่เมื่อสถานการณ์การระบาดรุนแรงและปริมาณผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มาตรการเพียงทั่วไปจึงไม่สามารถครอบคลุมความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้มากพอ การสร้างเกราะป้องกันให้พนักงานจึงต้องมากกว่าที่เป็น การฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด จึงเป็นอีกแนวทางที่เราเร่งดำเนินการ
เมื่อการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดยังไม่เพียงพอ ในสถานการณ์การระบาดที่หนักหน่วงนี้ การได้รับวัคซีนคือทางออกเดียวที่จะลดอัตราการเจ็บป่วยหนักและสูญเสีย ซิมเมอร์ฯ เชื่อว่าหากพนักงานได้รับวัคซีนเร็วที่สุด จะช่วยลดความเสี่ยงได้ อีกนัยหนึ่งสายการผลิตก็ไม่ต้องหยุดชะงัก โรงงานก็ไปต่อได้ ซิมเมอร์ฯ จึงได้จัดสรรให้พนักงานทั้งหมด 682 คน ได้รับการฉีดวัคซีนคิดเป็น 100% ของพนักงานทั้งหมด นอกจากพนักงานแล้ว ยังรวมไปถึงครอบครัว คนใกล้ชิดของพนักงาน ผู้ร่วมงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ให้ได้รับวัคซีนมากกว่า 1,500 คน เพื่อให้การปฏิบัติงานร่วมกัน มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและลดความรุนแรงของการติดเชื้อ
แม้พนักงานของ ซิมเมอร์ฯ จะได้รับวัคซีนครบแล้ว100% แต่ซิมเมอร์ฯ ยังคงต้องป้องกันระวังความเสี่ยงการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น จึงมีการจัดตรวจเชิงรุกด้วยชุด ATK ในทันที กรณีพนักงานมีความเสี่ยง ซึ่งอาจมีสาเหตุหลักมาจากครอบครัวหรือคนใกล้ชิด เมื่อตรวจพบจะมีการกำหนดให้หยุดงานกักตัว 14 วัน ในทันทีโดยไม่มีการหักเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยง พร้อมให้การดูแลระหว่างการรอเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป
ดร.พิพัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า "ทั้งนี้ ซิมเมอร์ฯ จะดูแล ห่วงใย ไม่ทอดทิ้ง ในกรณีที่พนักงานติดเชื้อ โดยได้จัดทำถุงยังชีพ อาหารและยารักษาโรค สำหรับการหยุดกักตัว และพักรักษาตัวที่บ้านหรือ รอเข้าสู่กระบวนการรักษา พร้อมทั้งมีการจัดทำศูนย์พักคอยที่วิทยาลัยการอาชีพเสนา จำนวน 108 เตียง เพื่อรองรับพนักงานและครอบครัวที่อาจได้รับการติดเชื้อ"
"สภาวะที่ยากลำบากเช่นนี้ ความใส่ใจ ห่วงใย เสมือนเป็นน้ำใจหนึ่งเดียวที่จะเยียวยาจิตใจและเติมพลังให้ครอบครัวซิมเมอร์ฯก้าวเดินร่วมกันต่อไปได้อย่างแข็งแรง แม้อาจดูหนทางการต่อสู้ครั้งนี้จะอีกยาวไกล แต่ด้วยสิ่งที่ครอบครัวซิมเมอร์ฯ มอบให้กันและกัน ย่อมทำให้เราผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกันอย่างไม่ยากเลย" ดร.พิพัฒน์ กล่าวปิดท้าย