กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้รับรางวัลเลิศรัฐประจำปี 2564 จาก คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) จำนวน 3 รางวัล ซึ่งเป็นการดำเนินงานขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG ได้แก่ โครงการตาลเดี่ยวโมเดลจัดการขยะสู่พลังงานและสร้างรายได้เพื่อความยั่งยืนของชุมชน ศูนย์นวัตกรรมการผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์เพื่ออุตสาหกรรม และนวัตกรรมเพิ่มผลผลิตและมูลค่ากล้วยไข่เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการเกษตร โดย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบรางวัลดังกล่าว ให้แก่ ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. ในวันที่ 16 กันยายน 2564 ผ่านระบบ Video Conference : Zoom Meeting
รางวัลเลิศรัฐ เป็นรางวัลที่ ก.พ.ร. มอบให้แก่หน่วยงานที่พัฒนาคุณภาพการให้บริการ ระบบการบริหารงาน และสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบราชการ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน จำนวน 234 รางวัล โดย วว. ได้รับ 3 รางวัล ดังนี้
รางวัลบริการภาครัฐ ประเภทรางวัลนวัตกรรมบริการ ระดับดีเด่น จากผลงาน โครงการตาลเดี่ยวโมเดลจัดการขยะสู่พลังงานและสร้างรายได้เพื่อความยั่งยืนของชุมชน ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม เป็นรูปแบบการบริหารจัดการขยะที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ให้เหมาะสมในแต่ละขั้นตอนการผลิตและแปรรูป ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ชุมชนเข้าถึงและสามารถดำเนินการได้เอง โดยมีเทคโนโลยีหลัก 3 ส่วน ได้แก่ 1.ชุดคัดแยกขยะระบบกึ่งอัตโนมัติแบบเบ็ดเสร็จ 2.ชุดคัดแยกชนิดและสีพลาสติกด้วยระบบ NIR และ Vision พร้อมระบบผลิตเกล็ดพลาสติกกำลังการผลิต 100 กิโลกรัมต่อชั่วโมง และ 3.นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพร่วมกับสารปรับปรุงดิน ตลอดจนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่สามารถเชื่อมโยงและส่งเสริมการจัดการขยะระหว่างชุมชน ผู้ประกอบการ รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน
รางวัลบริการภาครัฐ ประเภทพัฒนาการบริการ จำนวน 2 รางวัล ได้แก่
ระดับดีเด่น จากผลงาน ศูนย์นวัตกรรมการผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์เพื่ออุตสาหกรรม (ICPIM) ศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อสร้างธุรกิจใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการ มุ่งเป้าระยะยาวเพื่อชดเชยการนำเข้าหัวเชื้อจุลินทรีย์ให้ได้ 100% สำหรับการวิจัยพัฒนา ผลิต บริการ ด้านอาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากโพรไบโอติกและพรีไบโอติก ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับคนไทย มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการและเศรษฐกิจของประเทศ
ระดับดี จากผลงาน นวัตกรรมเพิ่มผลผลิตและมูลค่ากล้วยไข่เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการเกษตร ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ โดยการพัฒนาเทคโนโลยีลดความสูงของกล้วยไข่เพื่อลดความเสียหายจากลมพายุ มีต้นทุนการผลิต 1 บาทต่อต้น นอกจากนี้ยังสามารถปลูกกล้วยให้ชิดได้มากขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้จากกล้วยที่ไม่เสียหายและปลูกจำนวนต้นต่อพื้นที่ได้มากขึ้น รวมทั้งการวิจัยเพิ่มขนาดและน้ำหนักของผลกล้วยไข่ได้ 50-70 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้สารกลุ่มจิบเบอเรลลิน (Gibberellin) ฉีดพ่นโดยตรงที่ผลอ่อนจำนวน 2 ครั้ง ห่างกันหนึ่งสัปดาห์ ที่ความเข้มข้น 50 ส่วนในล้านส่วน ซึ่งมีต้นทุนประมาณ 4 บาทต่อเครือ ทำให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้นจากขนาดและน้ำหนักผลของกล้วยไข่ที่เพิ่มขึ้น
ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า ทั้ง 3 รางวัลเลิศรัฐได้รับนั้นเป็นความภาคภูมิใจของ วว. ที่สามารถผลิตผลงานช่วยแก้ไขปัญหา ตอบโจทย์ประเทศได้เป็นรูปธรรม ผ่านการดำเนินงานร่วมขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่ วว. บูรณาการดำเนินงานกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเน้นการเป็นหุ้นส่วนความสำเร็จของผู้ประกอบการ (Partner to your success) เพื่อสร้างนวัตกรรมการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน