สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมมือ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดันงานวิจัยขับเคลื่อนการขนส่งของรถจักรล้อเลื่อนให้สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ผ่านการบูรณาการองค์ความรู้หลากมิติ ทั้งวิศวกรรมระบบราง วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมปิโตรเลียม ฯลฯ ขานรับนโยบายกระทรวงคมนาคม ที่รุดผลักดันการใช้เทคโนโลยีระบบรถไฟฟ้าสำหรับการขนส่งสาธารณะ ส่งเสริมพลังงานสะอาด ลดมลพิษในด้านต่าง ๆ ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือ "การพัฒนาเทคโนโลยีด้านการขนส่งทางรางด้านรถจักรล้อเลื่อน เพื่อพัฒนาไปสู่ระบบไฟฟ้า" ใน 2 มิติ ได้แก่ 1. พัฒนาด้านวิศวกรรมในการเปลี่ยนรถจักรดีเซลไฟฟ้าและรถดีเซลราง 2. พัฒนาด้านวิศวกรรมเกี่ยวกับสถานีจ่ายไฟฟ้า ทั้งนี้ กิจกรรมการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผ่านแพลตฟอร์มวิดีโอคอลในระบบซูม (Zoom)
ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า ด้วยเล็งเห็นถึงโอกาสของการพัฒนาระบบขนส่งและการคมนาคมโดยรถไฟ ที่ในอนาคตหากมีการปรับตัวสู่การเลือกใช้พลังงานทางเลือกหรือพลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษทางอากาศอย่างยั่งยืน อีกทั้ง สจล. ที่มีพื้นที่ตั้งใกล้ชิดกับจุดจอดรถไฟสถานีพระจอมเกล้า มีศักยภาพในการพัฒนางานวิจัยในหลากหลายมิติ ตลอดจนความเข้มแข็งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ สจล. ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม ในฐานะ The World Master of Innovation สู่บทบาทการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมระดับโลก จากการจัดอันดับ Times Higher Education World University Rankings 2021 (Asia-Pacific) จากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วเอเชีย ให้เป็น เบอร์ 1 มหาวิทยาลัยไทยด้านงานวิจัย (Research) ด้านรายได้จากภาคอุตสาหกรรม (Industry Income) และมีคะแนนรวมเป็นอันดับที่ 5 ของไทยและภูมิภาคอาเซียน ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science & Tech University)
ดังนั้น สจล. โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จึงมีความพร้อมทั้งด้านองค์ความรู้และเทคโนโลยี ด้านบุคลากรและทรัพยากร เพื่อให้ความร่วมมือกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "การพัฒนาเทคโนโลยีด้านการขนส่งทางรางด้านรถจักรล้อเลื่อน เพื่อพัฒนาไปสู่ระบบไฟฟ้า" เพื่อผลักดันงานวิจัยพัฒนาการขนส่งของรถจักรล้อเลื่อน ให้สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้อย่างมีเสถียรภาพ บนพื้นฐานการบูรณาการองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับรถไฟ ที่ครอบคลุมศาสตร์ด้านวิศวกรรมระบบราง วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมปิโตรเลียม ฯลฯ
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวต่อว่า ตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทย มีแผนการพัฒนาปรับปรุงระบบรถไฟให้เป็นระบบรถไฟฟ้าครอบคลุมโครงข่ายทางรถไฟทั่วประเทศ รองรับการเดินทางขนส่งผู้โดยสารและสินค้าของประเทศ และกระทรวงคมนาคมมีนโยบายที่จะผลักดันการใช้เทคโนโลยีระบบรถไฟฟ้าสำหรับการขนส่งสาธารณะ เพื่อส่งเสริมพลังงานสะอาด ลดมลพิษในด้านต่าง ๆ รวมถึงผลักดันการใช้พลังงานของประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับทิศทางของเทคโนโลยีประหยัดพลังงานและลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดมลพิษ จึงได้ร่วมกับ สจล. ในการร่วมกันคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านการขนส่งทางรางด้านรถจักรล้อเลื่อนเพื่อพัฒนาไปสู่ระบบไฟฟ้า และส่งเสริมการใช้วัสดุในประเทศ เพื่อให้มีรูปแบบการบริการใหม่แก่ประชาชน มีวัตถุประสงค์การร่วมมือ ดังนี้
ทั้งนี้ การร่วมมือทางด้านวิชาการดังกล่าว เพื่อพัฒนาการขนส่งระบบรางของการรถไฟฯ ไปสู่ระบบไฟฟ้าในด้านต่างๆ ดังเช่นต่างประเทศที่ได้เริ่มมีการพัฒนาระบบไฟฟ้ารูปแบบใหม่มากขึ้น อาทิ ญี่ปุ่น อังกฤษ และเยอรมนี ซึ่งได้มีการวิจัยในการนำพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มาขับเคลื่อนรถไฟ ซึ่งนอกจากจะเป็นการลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ยังสอดคล้องกับแผนงานและนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งมั่นผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในระบบคมนาคมขนส่งให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมทางด้านเศรษฐกิจให้กับประเทศอีกด้วย นายนิรุฒ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "การพัฒนาเทคโนโลยีด้านการขนส่งทางรางด้านรถจักรล้อเลื่อน เพื่อพัฒนาไปสู่ระบบไฟฟ้า" จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผ่านแพลตฟอร์มวิดีโอคอลในระบบซูม (Zoom) ติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรมของ สจล. ผ่าน www.facebook.com/kmitlofficial และ www.kmitl.ac.th