การเลือกใช้ถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูปที่ถูกต้องเหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งถังบำบัดสำเร็จรูปในปัจจุบันจะมี 2 ประเภท ได้แก่ ถังบำบัดไร้อากาศและถังบำบัดเติมอากาศ โดยทั่วไปถังบำบัดที่ใช้ตามบ้านเรือนทั่วไปจะสามารถใช้เป็นตัวถังบำบัดไร้อากาศได้ แต่ถ้าเกิดเป็นที่พักอาศัยหรือสถานที่ที่มีคนใช้งานค่อนข้างเยอะจำเป็นต้องเปลี่ยนมาใช้เป็นถังบำบัดเติมอากาศจึงจะเหมาะสม ซึงส่วนใหญ่แล้วถังบำบัดน้ำเสียที่นำไปบำบัดสถานที่ที่มีคนใช้งานค่อนข้างเยอะจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่จะค่อนข้างเหมาะสมกว่า
บทสัมภาษณ์คุณนนภัทร ตำแหน่ง Project Engineering ซึ่งเลือกใช้ Aeromax ตรา พีพี. ประมาณ 3 ปี โดยใช้กับโครงการใหญ่ ถึง 2 โครงการ แนะนำการเลือกใช้ถังบำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่ ระบบActivated Sludge
ก่อนอื่นควรดูจำนวนผู้ใช้กับปริมาตรถัง ถังบำบัดควรเลือกใช้เพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนการใช้งานจริง เช่น ในประเภทโรงงานอุตสาหกรรม มีผู้ใช้ห้องน้ำอยู่ที่ 100 คน ปริมาตรถังที่ควรใช้อยู่ที่ 50,000 ลิตร ห้ามน้อยเกินกว่านี้แต่ในกรณีที่ต้องการเพิ่มขนาดถังเพื่อรองรับต่อผู้ใช้งานที่เพิ่มในอนาคต
สามารถทำได้แต่อาจจะต้องลดปริมาณหัวเชื้อจุลินทรีย์เพื่อให้เหมาะสม เนื่องจากเมื่อจำนวนผู้ใช้น้อยกว่าจำนวนหัวเชื้อจุลินทรีย์ในถัง จะทำให้หัวเชื้อจุลินทรีย์ขาดสารอาหารและทำให้หัวเชื้อตายลงกลายเป็นกากตะกอนที่จะช่วยเพิ่มปัญหาค่าตกตะกอนของตัวถังโดยทั่วไปถังบำบัดเติมอากาศแบบมาตรฐานทั่วไปจะสามารถบำบัดน้ำเสียให้BODเหลือ 20 มิลลิกรัม/ลิตร ก็ต่อเมื่อค่า BOD เข้าอยู่ที่ 250 มิลลิกรัม/ลิตร แต่บางหน้างานที่มีค่า BOD เข้าเกิน 250 มิลลิกรัม/ลิตร ส่วนใหญ่จำเป็นต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัด รวมถึงสถานที่ที่ต้องดูแลค่าน้ำเสียเป็นพิเศษ ซึงจะพบได้กับโรงงานที่มีน้ำเสียปนเปื้อนจากการกระบวนการผลิตระบบบำบัดน้ำเสียชุมชน ฯลฯ ฉะนั้นถังบำบัดขนาดเล็กจำพวกทรงกลมจะไม่สามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาได้ ถึงจะสามารถบำบัดออกได้ 20 มิลลิกรัม/ลิตร แม้ว่าตัวระบบจะราคาสูงแต่ถ้าเมื่อเทียบกับคุณภาพน้ำที่ออกมานั้น ช่วยลดน้ำเสียที่ปล่อยสู่ชุมชุนและรักษาสภาวะแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website: https://www.premier-products.co.th/.../waste-water.../
โทร: 02-301-2223
Line ID: @pp.wtprofessional