บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ สนับสนุนงาน Thailand Sustainability Expo 2021 (TSX) มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหาร ภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน CPF Sustainability in Action 2030 ตอกย้ำการสร้างนวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี ส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนองค์กร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ในปีนี้ ซีพีเอฟ ร่วมงาน TSX โดยชูนวัตกรรมอาหารเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดการสร้างคุณค่าปราศจากขยะ (Waste to Value) เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนระบบอาหารที่ยั่งยืน ตามเป้าหมายทศวรรษแห่งการลงมือทำ (Decade of action) สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ
ซีพีเอฟ ร่วมจัดงานใน 3 ส่วน ประกอบด้วย โซนแสดงนิทรรศการ (Exhibition Pavilion) เป็นการนำเสนอนวัตกรรมอาหารภายใต้กลยุทธ์ อาหารมั่นคง โดยนำเสนอโปรตีนทางเลือก Meat Zero ผลิตภัณฑ์ Plant- Based Protein ที่ผลิตจากพืช 100% เป็นความร่วมมือกับบริษัทด้าน Plant-based ระดับโลกจากหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐ และสิงคโปร์ รวมถึงสถาบันการศึกษาของไทยอย่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เกิดเป็นนวัตกรรม 'PLANT-TEC หรือ เทคนิคการสร้างรสสัมผัสเสมือนเนื้อสัตว์' ของ MEAT ZERO ที่มีหลากหลายเมนูทั้งอาหารพร้อมรับประทานและอาหารพร้อมปรุง เป็นโปรตีนทางเลือกแห่งอนาคต การคิดค้นสูตรอาหารสัตว์ด้วยนวัตกรรมโปรไบโอติก ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้สัตว์แข็งแรงตามธรรมชาติ ไม่ป่วย จึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันมากกว่า 99.9% ของบรรจุภัณฑ์พลาสติกอาหาร สามารถนำมาใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่ หรือ ย่อยสลายได้ ช่วยลดปัญหาขยะพลาสติก ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
นายวุฒิชัย กล่าวว่า ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมอาหาร ซีพีเอฟกำหนดเป้าหมายปี 2030 (ปี พ.ศ. 2573) ในการขับเคลื่อนการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืนไว้ชัดเจน โดยเพิ่มสัดส่วนอาหารเพื่อสุขโภชนาการที่ดีเป็น 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 35 % และเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ จาก 20% เป็น 40% รวมทั้งตั้งเป้าหมายลดขยะอาหารในกระบวนการผลิตเป็นศูนย์ภายในปี 2573 หรือในอีก 9 ปีข้างหน้า
โซน Marketplace ได้นำผลิตภัณฑ์ชุมชนจัดแสดงและจำหน่าย ภายใต้กลยุทธ์สังคมพึ่งตนและดินน้ำป่าคงอยู่ ซึ่งเป็นสินค้าชุมชนที่ซีพีเอฟเข้าไปส่งเสริมทักษะสร้างอาชีพ เสริมรายได้ จากการใช้ประโยชน์และพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมทั้งปลูกฝังการตระหนักถึง ความสำคัญ สู่การอนุรักษ์และปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมี 4 ร้าน คือ 1. "ชวนอิ่มติดปาก จากชุมชน" เป็นหมวดอาหารที่ใช้วัตถุดิบที่โดดเด่นเฉพาะถิ่นและกรรมวิธีการผลิตที่สะอาด ปลอดภัย รสชาติอร่อย เช่น กะปิลุงแมน ชาใบขลู่สมุนไพร ปลากรอบ ไข่เค็มสมุนไพร 2.ร้าน"ชวนสวยละมุน 3 ป่า" ที่นำอัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม เช่น เกลือหอมอโรม่า เกลือขัดผิว ลูกประคบสมุนไพร หน้ากากมัดย้อมสีธรรมชาติ 3. ร้าน"ชวนใช้ รักษ์โลก" การสร้างคุณค่าจากวัสดุเหลือใช้หรือจากวัตถุดิบในท้องถิ่น เช่น ถุงบรรจุถ่านไบโอชาที่มีคุณสมบัติในการดูดกลิ่น จานกาบหมาก ปุ๋ยชีวภาพนาโน และ 4. ร้าน"ชวนชิลล์ ชุมชน 3 ทะเล" โปรแกรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แนววิถีชุมชน ได้แก่ ชุมชนบางหญ้าแพรก จังหวัดสมุทรสาคร ชุมชนปากน้ำประแส จังหวัดระยอง และชุมชนบ้านธรรมชาติล่าง จังหวัดตราด
"สินค้าชุมชนที่นำมาร่วมแสดงในงาน เป็นการสร้างโอกาสให้กับชุมชนในการขยายตลาดสินค้าและบริการ ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเพิ่มรายได้และสร้างสรรค์สินค้าที่มีให้มีมูลค่าเพิ่มต่อไป" นายวุฒิชัย กล่าว
นอกจากนี้ ในส่วน Main Stage ซีพีเอฟ เข้าร่วมเสวนาใน 4 หัวข้อ คือ หัวข้อโปรตีนแห่งอนาคต โดยมีแชมป์ที่ชนะการแข่งขันพัฒนาอาหารและโปรตีนจากพืชในระดับภูมิภาคอาเซียน "The Pro Veg Food Innovation Challenge 2021"ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ หัวข้อการพัฒนางานชุมชนคนไร้ Waste หัวข้อ Waste to Value สร้างคุณค่าปราศจากขยะ และ หัวข้อโครงการ Sustainability in Action : กล้าจากป่าพนาในเมือง และ กินแกลี้ยงเลี้ยงโลก ซึ่งเป็นกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายความยั่งยืนในระดับบุคคล
งาน TSX กำหนดจัดงานตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน - 10 ตุลาคม 2564 ในรูปแบบนิทรรศการออนไลน์แบบเสมือนจริง (Virtual Expo) ครั้งแรกในประเทศไทยและอาเซียน โดยมีองค์กรชั้นนำที่เป็นต้นแบบด้านความยั่งยืน ร่วมแสดงผลงานและแบ่งปันประสบการณ์ ผ่าน www.tsx2021.thailandsustainabilityexpo.com สร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนและคนรุ่นใหม่ โดยซีพีเอฟพร้อมร่วมขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย และสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ./