"บีซีพีจี" เสริมแกร่ง จับมือ "เคพเพล นิว เอนเนอร์ยี่ " บริษัทยักษ์ใหญ่จากสิงคโปร์ เซ็นต์สัญญา Exclusive Partner

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 7, 2021 16:05 —ThaiPR.net

"บีซีพีจี" เสริมแกร่ง จับมือ "เคพเพล นิว เอนเนอร์ยี่ " บริษัทยักษ์ใหญ่จากสิงคโปร์ เซ็นต์สัญญา Exclusive Partner มุ่งเป้าผู้นำด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืน

บีซีพีจี ลงนามสัญญาเป็น Exclusive Partner กับ เคพเพล นิว เอนเนอร์ยี่ (Keppel New Energy) จากสิงคโปร์ บุกตลาดธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเมืองอัจฉริยะ (Smart City Infrastructure) พัฒนาโซลูชั่นสร้างสมดุลการปล่อยคาร์บอนเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ สนับสนุนเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ.2065-2070 ตามแผนพลังงานชาติ

นายบัณฑิต สะเพียรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการลงนามสัญญาเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย (Exclusive Partner) กับ เคพเพล นิว เอนเนอร์ยี่ (Keppel New Energy) บริษัทในกลุ่ม เคพเพล อินฟราสตรัคเจอร์ (Keppel Infrastructure) ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ ชั้นนำระดับโลก จากประเทศสิงคโปร์ ในครั้งนี้ว่า เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ในประเทศไทยให้สมบูรณ์ครบวงจรทั้งด้านพลังงาน และ สิ่งแวดล้อม รวมถึงธุรกิจลงทุนด้านโครงสร้างและการบริหารจัดการระบบความเย็นจากส่วนกลาง (Cooling-as-a-Service) บริการจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles Charging-as-a-Service) ไปจนถึงความร่วมมือในธุรกิจคาร์บอนในภูมิภาคอาเซียน

บีซีพีจี ในฐานะผู้นำธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียวในเอเชียแปซิฟิกและผู้ให้บริการด้านพลังงานอัจฉริยะครบวงจร ได้ให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการการใช้พลังงานของผู้บริโภคและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯได้ขยายธุรกิจด้านพลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการบริหารจัดการพลังงาน Town 77 ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2561 และ โครงการ CMU Smart City ที่คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2564 รวมทั้งโครงการ Sun Share Smart Green Energy Community ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการขออนุญาต Sandbox ฯลฯ โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายเพื่อต่อยอดไปสู่ธุรกิจการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) อย่างเต็มรูปแบบในอนาคต

"ในปัจจุบันภาครัฐได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ คือเมืองที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยและชาญฉลาด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน ซึ่งเมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีการบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบที่สำคัญของเมืองอัจฉริยะ

เคพเพล นิว เอนเนอร์ยี่ เป็นบริษัทที่มีเทคโนโลยี และนวัตกรรมในการบริหารจัดการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน อาทิ การจัดการน้ำ การบริหารจัดการของเสียหรือขยะ การบริหารจัดการระบบความเย็นจากส่วนกลาง ฯลฯ ที่สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เมื่อมาผนึกกับบีซีพีจีซึ่งมีเทคโนโลยีและประสบการณ์ในการบริหารจัดการพลังงาน อาทิ การผลิตและใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด การนำเทคโนโลยีบล็อคเชน มาใช้ในการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกันแบบ Peer to Peer ฯลฯ ซึ่งเป็นการสร้างความสมดุลระหว่างการผลิตและการใช้พลังงานในพื้นที่ ลดการพึ่งพาจากระบบโครงข่ายไฟฟ้าหลักและ ไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม การจับมือกันในครั้งนี้จึงเป็นการรองรับตลาดธุรกิจการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่กำลังเติบโตในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ" นายบัณฑิตกล่าว

นอกจากนี้ บีซีพีจี ยังมีแผนร่วมมือกับเคพเพล นิว เอนเนอร์ยี่ ในการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียน (renewable energy projects) ร่วมกัน เพื่อผลักดันให้การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดในภูมิภาคอาเซียนเติบโตตามเป้าหมาย รวมไปถึงการร่วมกันจัดทำแพลตฟอร์มซื้อ-ขาย คาร์บอนเครดิต (carbon trading platform) ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสมดุลในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutral) โดยจะขยายไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย ลาว และสิงคโปร์ อีกด้วย

ด้าน มิส ซินดี้ ลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคพเพล อินฟราสตรัคเจอร์ กล่าวว่า "เรายินดีที่ได้ร่วมมือกับบีซีพีจีในการนำโซลูชั่นด้านพลังงานและการลดการปล่อยคาร์บอนมาใช้ในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน เช่น การนำระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลาง (District Cooling System) ที่มีระบบควบคุมอัจฉริยะมาใช้ในเมืองอัจฉริยะ หรือในเมืองต่างๆ เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานที่คุ้มค่าที่สุด มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างวิถีชีวิตที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ ภายในปี 2025 รัฐบาลในกลุ่มประเทศอาเซียนได้ตั้งเป้าหมายให้มีการใช้พลังงานสะอาดเพิ่มขึ้นโดยมีสัดส่วนมากถึง ร้อยละ 23 นั่นหมายความว่าประเทศในภูมิภาคนี้จะต้องผลิตพลังงานสะอาดให้ได้ถึง 3,500 - 4,000 เมกกะวัตต์ (3.5-4.0 กิกะวัตต์) และด้วยศักยภาพของ เคพเพล อินฟราสตรัคเจอร์ และ บีซีพีจี เรามุ่งมั่นที่จะต่อยอดโอกาสจากเป้าหมายดังกล่าว รวมไปถึงเป้าหมายการเชื่อมโยงพลังงานสะอาด และตลาดคาร์บอนภายในภูมิภาค ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพลังงานใหม่ในอาเซียน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ เคพเพล ในการพัฒนาโซลูชั่นเพื่อสร้างเมืองที่ยั่งยืน"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ