THE ปรับเป้าหมายรายได้ปี 64 เป็น 1.5 หมื่นล้านบาท จากเดิม 1.3 หมื่นล้านบาท เหตุราคาเหล็กยังคงทรงตัวในระดับสูง และมีแนวโน้มลากยาวถึงต้นปี 65 โดย 6 เดือนแรก ทำได้แล้ว 7,394 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 709 ล้านบาท คาดการณ์ไตรมาส 3 นี้ ยังเติบโตโดดเด่น
นายบุญชัย จิระพงษ์ตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะสตีล จำกัด (มหาชน) หรือTHE เปิดเผยว่า บริษัทฯปรับเป้าหมายรายได้ในปี 2564 เพิ่มเป็น 15,000 ล้านบาท จากต้นปีคาดว่าจะมีรายได้ 13,000 ล้านบาท เนื่องจากทิศทางราคาเหล็กยังคงทรงตัวในระดับสูง ขณะที่ความต้องการใช้ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
บริษัทฯ คาดการณ์ว่าแนวโน้มราคาเหล็กจะคงในระดับสูงต่อเนื่องจนถึงต้นปี 2565 เนื่องจากประเทศจีนในฐานะผู้ค้าเหล็กรายใหญ่ของโลก และมีอิทธิพลต่อการกำหนดราคาเหล็กในตลาดโลกให้อยู่ในระดับต่ำผ่านการใช้นโยบายคืนภาษี(Rebate)มาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ไม่สามารถดำเนินโนบายดังกล่าวได้อีกต่อไป ส่งผลให้ราคาเหล็กในตลาดโลก กลับมามีเสถียรภาพ ไม่เหวี่ยงตัวแรงเหมือนเช่นในอดีต
ด้วยสถานการณ์ราคาเหล็กเริ่มมีเสถียรภาพ ส่งผลให้ภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯ งวด 6 เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้รวม 7,394 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 709 ล้านบาท ผลประกอบการในงวดไตรมาส 3 ของปี 2564 นี้ คาดว่าจะสามารถรักษาการเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง ผลจากราคาเหล็กยังคงทรงตัวในระดับสูง ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ 70% จะมาจากการTrading และสัดส่วนที่เหลือ 30% มาจากการผลิตเอง
ปัจจุบันบริษัทฯจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กที่ยังไม่ได้แปรรูป ได้แก่ เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน(Hot Rolled Coil) และแปรรูปแล้วทั้งเหล็กม้วนสลิด เหล็กแผ่น เหล็กรูปพรรณ