บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ เครือสหพัฒน์ ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรในการลงทุนและพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าผลักดันสหโคเจนเติบโตโดยเฉพาะด้านพลังงานทดแทน รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมพลังงานและความร่วมมือในธุรกิจอื่นๆ ในการนี้ ราช กรุ๊ป จะเข้าซื้อหุ้นสามัญเดิมและหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) จากกลุ่มสหพัฒน์ สัดส่วนร้อยละ 51 ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของสหโคเจน มูลค่าการลงทุนรวม 3,413 ล้านบาท (คิดเป็นราคา 5.75 บาทต่อหุ้น) ซึ่งสัญญาซื้อขายหุ้น และสัญญาการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนได้ลงนามแล้วในวันนี้ คาดว่าธุรกรรมทั้งหมดจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2564
สำหรับบริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมสูงสุด 214 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 96 ตัน/ชั่วโมง โดยใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ 90 เมกะวัตต์ จำหน่ายแก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และส่วนที่เหลือรวมทั้งไอน้ำจำหน่ายแก่โรงงานอุตสาหกรรมในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์-ศรีราชา นอกจากนี้ สหโคเจน ยังได้ลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล อีก 2 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้าชีวมวล กำลังการผลิต 9.6 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ - ลำพูน จังหวัดลำพูน ดำเนินงานภายใต้บริษัท สหโคเจน กรีน จำกัด (ถือหุ้นทั้งหมด) จำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จำนวน 8 เมกะวัตต์ และจำหน่ายไอน้ำให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม และโรงไฟฟ้าชีวมวล กำลังการผลิต 7.5 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดกำแพงเพชร ดำเนินงานโดยบริษัท สหกรีน ฟอเรสต์ จำกัด (ถือหุ้นร้อยละ 75) จำหน่ายไฟฟ้าให้กับ กฟภ. 7 เมกะวัตต์ อีกทั้งยังมีการร่วมทุนในบริษัท อิมแพค โซล่าร์ จำกัด (ถือหุ้นร้อยละ 21) ดำเนินธุรกิจติดตั้งโซล่าร์บนหลังคาภายในสวนอุตสาหกรรมและขายไฟฟ้าตรงสำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม โดยกำหนดเป้าหมายไว้ประมาณ 53 เมกะวัตต์
นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความสำเร็จของการร่วมทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการรักษาและสร้างฐานธุรกิจผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าที่จะลงทุนโรงไฟฟ้าขนาดเล็กประเภทโคเจนเนอเรชั่นที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์และมีลูกค้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและไอน้ำแน่นอนแล้ว สำหรับโรงไฟฟ้าสหโคเจน ปัจจุบันได้ผลิตไฟฟ้าจำหน่ายแก่ลูกค้าอุตสาหกรรม รวมกว่า 70 แห่ง รวมถึงในเครือของสหพัฒน์ด้วย นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่า ความต้องการไฟฟ้าของลูกค้าอุตสาหกรรมจะเพิ่มมากขึ้น ตามจำนวนลูกค้าของสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเห็นโอกาสและศักยภาพที่จะพัฒนาธุรกิจต่อยอดรองรับการเปลี่ยนผ่านของระบบจำหน่ายไฟฟ้าไปสู่สมาร์ทกริด และ/หรือไมโครกริดในอนาคตด้วย
"บริษัทฯ มีความยินดีกับความสำเร็จครั้งนี้ ซึ่งโรงไฟฟ้าสหโคเจน เป็นโครงการประเภทโคเจนเนอเรชั่น ในประเทศไทยแห่งที่ 7 ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นยังเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์กับกลุ่มสหพัฒน์ ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคของประเทศไทย ตอบสนองกลยุทธ์ด้านพันธมิตรอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ และมีนัยสำคัญต่อความสำเร็จของเป้าหมายการเป็นบริษัทชั้นนำด้านพลังงานและระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ทั้งสองฝ่ายต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกันและพร้อมที่จะผนึกความแข็งแกร่งและความเชี่ยวชาญในทุกด้านร่วมกันขยายฐานธุรกิจผลิตไฟฟ้าและที่เกี่ยวข้อง โดยเสริมความแข็งแกร่งบริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) ให้เป็นกลไกขับเคลื่อนเป้าหมายดังกล่าว บริษัทฯ ขอขอบคุณกลุ่มสหพัฒน์ที่เชื่อมั่นในบริษัทฯ จนนำมาสู่ความสำเร็จในวันนี้ รวมทั้งความร่วมมือที่กำลังพัฒนาต่อเนื่องในอนาคต" นางสาวชูศรี กล่าว
นายวิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "โรงไฟฟ้าสหโคเจนในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์-ศรีราชา ถือเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก ระบบโคเจนเนอเรชั่นรุ่นแรกของประเทศไทย การได้มีพันธมิตรอย่าง ราช กรุ๊ป ซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เข้ามาร่วมลงทุนในการขยายธุรกิจเป็นสิ่งที่น่ายินดี และสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับโรงงานในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์-ศรีราชาได้ในระยะยาว อีกทั้งยังสามารถสร้างโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ กับกลุ่มราช กรุ๊ป ในอนาคตต่อไป"