บมจ. โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) ผู้พัฒนา ผลิตและจำหน่ายยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร ภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้า และเครื่องหมายการค้าของบริษัท พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 2 พ.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,185 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "JP"
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ภายใต้กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "JP"
JP เป็นผู้พัฒนา ผลิตและจำหน่ายยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาสินค้า การคิดค้นและพัฒนาสูตร การขอทะเบียนตำรับยาหรือการจดแจ้งเลขสารบบอาหารของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนการผลิตและการควบคุมการผลิตที่ได้คุณภาพ ทั้งการรับจ้างผลิตและจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้า (OEM) และภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัท (Own Brand) สำหรับสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัท มี 4 ตราสินค้า ได้แก่ COX(TM), JSP(TM), EVITON(TM) และ สุภาพโอสถ(TM) นอกจากนี้ บริษัทยังมีการผลิตผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ทำความสะอาด (ซึ่งเริ่มผลิตและจำหน่ายตั้งแต่ปี 2563) และกลุ่มผลิตภัณฑ์ซื้อมาขายไป โดยในปี 2563 บริษัทมีรายได้จากการขายแบ่งตามกลุ่มสินค้า OEM : สินค้า Own Brand : กลุ่มอื่นๆ คิดเป็น 55 : 21 : 24 ตามลำดับ ทั้งนี้บริษัทมีการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ ร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ทีมขายของบริษัท ตัวแทนจำหน่าย TV Shopping และช่องทางการขายออนไลน์
JP มีทุนชำระแล้ว 227.50 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 340 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 115 ล้านหุ้น เสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์และผู้ลงทุนสถาบัน จำนวนไม่เกิน 113.75 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท จำนวนไม่เกิน 1.25 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 21, 25-26 ตุลาคม 2564 ในราคาหุ้นละ 7 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 805 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,185 ล้านบาท ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 100 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 กรกฎาคม 2563 - 30 มิถุนายน 2564) ซึ่งเท่ากับ 31.85 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.07 บาท โดยมีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด และบริษัท สยาม อัลฟา แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
ดร. สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) (JP) เปิดเผยว่า กลุ่มครอบครัวมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจยาและสมุนไพรมากว่า 67 ปี จนถึงปัจจุบันเป็นผู้บริหารรุ่นที่ 3 บริษัทมุ่งมั่นเป็นบริษัทชั้นนำด้านการวิจัย ผลิต และจัดจำหน่ายยา เวชภัณฑ์ และอาหารเสริม ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุนในโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ พัฒนาและประชาสัมพันธ์ตราสินค้าของบริษัท (Own Brand) ปรับปรุงและขยายโรงงานทั้งที่กรุงเทพและลำพูน ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ทั้งนี้ JP มีผู้ถือหุ้นหลัง IPO 2 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มครอบครัวแดงประเสริฐถือหุ้น 70.33% กองทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุนสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีก้าวไกลไปด้วยกัน 4.18% บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองต่างๆ ตามกฎหมายและข้อบังคับบริษัท
รายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.jsppharma.com และ www.set.or.th