เข้าใกล้เทศกาลฮาโลวีนที่เมื่อพูดถึงแล้วก็อดนึกถึงสัญลักษณ์สำคัญอย่างตะเกียงฟักทองผลโตๆ ไม่ได้ สำหรับคนไทยที่สนใจการแกะสลักฟักทองเป็นตะเกียงตามธรรมเนียมฝรั่ง และนำมาต้ม ผัด แกง ทอด ปรุงอาหารต่อตามสไตล์ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกฟักทองสายพันธุ์ไหนที่เหมาะสม วันนี้เจียไต๋ ขอหยิบยกฟักทอง 4 สายพันธุ์ยอดฮิตมานำเสนอให้ทุกท่านได้รู้จักตั้งแต่เมล็ดพันธุ์คุณภาพเจียไต๋ ไปจนถึงเมนูอาหารแสนอร่อยที่อุดมด้วยโภชนาการที่มีคุณค่า
เนื้อฟักทองสีเหลืองสวย เนื้อสัมผัสที่เหนียว ละเอียด แน่น บวกกับรสชาติที่หวานละมุน และสารอาหารที่มีประโยชน์ ทำให้ฟักทองเป็นพืชที่คนไทยนิยมรับประทาน และยังเป็นพืชที่เกษตรกรไทยนิยมปลูก ขายได้ราคาดี และตลาดต้องการ ซึ่งฟักทองของเจียไต๋ที่ผ่านการปรับปรุงสายพันธุ์จนได้เมล็ดพันธุ์คุณภาพ เป็นที่นิยมของผู้ปลูก ผู้ขาย และผู้บริโภค ได้แก่
ฟักทองทองอำไพ 426 สังเกตได้จากผลที่ใหญ่กว่าฟักทองทั่วไป ผิวคางคก รูปทรงแป้นสวย ให้ผลิตผลดีเกรด A น้ำหนักผลเฉลี่ย 6-8 กิโลกรัม อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 85-90 วัน (หลังเพาะเมล็ด) ทนต่อการขนส่ง สามารถเก็บได้นาน ลักษณะของเนื้อจะมีความเหนียวแน่น ไส้น้อยเนื้อเยอะ รสชาติหวานมัน เหมาะสำหรับทำอาหารไทยอย่างการนำไปผัด ต้ม หรือแกง เพราะเนื้อจะไม่เหลวเมื่อนำไปประกอบอาหาร
ฟักทองทองอำพัน 346 สายพันธุ์ที่ขายดีอันดับ 1 ให้ผลใหญ่ ไหล่ยก พูหนา ผิวคางคก ผลิตผลสม่ำเสมอ น้ำหนักผลเฉลี่ยที่ 5-7 กิโลกรัม อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 85-90 วัน (หลังเพาะเมล็ด) ทนต่อการขนส่ง เก็บได้นาน เนื้อมีสีเหลืองไพล เนื้อเหนียวละเอียด รสหวานมันอร่อย
ฟักทองบัตเตอร์นัท ที่หลายคนชื่นชอบในรสชาติหวานมัน เนื้อนุ่มแน่น ทรงดัมเบล ขนาดลูกกำลังพอเหมาะไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป เหมาะสำหรับปลูกในครัวเรือน ปลูกได้ง่าย ไม่ว่าจะปล่อยเลื้อยกับดินหรือขึ้นค้าง มีอายุเก็บเกี่ยวเร็วที่ 65-70 วัน ให้ผลทรงสวยเป็นเอกลักษณ์ เก็บได้นาน และสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลาย
ฟักทองมินิบอล ตระกูลฟักทองสควอช สายพันธุ์ญี่ปุ่น ผิวสีเขียวเข้ม เนื้อสีเหลืองสวย ผลกลมเล็ก แต่รสชาติอร่อยเกินตัว ด้วยเนื้อที่แน่นและเหนียว รสอร่อยหวานมัน สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือก น้ำหนักผลเฉลี่ยที่ 0.5-1 กิโลกรัม
และนอกจากเมล็ดพันธุ์ฟักทองเจียไต๋ Chia Tai Trusted since 1921 และเจียไต๋ โฮมการ์เด้นที่เพาะปลูกง่าย ทนโรคและได้ผลิตผลที่ดีแล้ว ด้วยเนื้อที่เหนียว ละเอียด แน่น รสชาติหวานมัน อุดมด้วยสารอาหาร ทำให้ฟักทองสายพันธุ์เจียไต๋สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายทั้งคาวหวาน เช่น สังขยาฟักทอง ฟักทองผัดไข่ แกงเลียง หรือจะลองมาชิมเมนูฟักทองต่างๆ ของร้านเจียไต๋ฟาร์ม ซึ่งได้ต่อยอดและเพิ่มมูลค่าผลิตผลของเกษตรกรเป็นมื้ออาหารจานเด็ดสูตรเฉพาะของเจียไต๋ฟาร์ม อย่างฟักทองมินิบอลแมคแอนด์ชีส แพนเค้กฟักทองมินิบอล ฟักทองมินิบอลย่าง โจ๊กบัตเตอร์นัท หรือเครื่องดื่มสมูทตี้แสนอร่อยอย่าง Butternut Pandan ที่หอมกลิ่นใบเตยและหวานกลมกล่อมด้วยรสชาติของเนื้อฟักทองบัตเตอร์นัทปั่น ซึ่งนอกจากได้ผลิตอาหารคุณภาพให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกรผู้ปลูก นับว่าเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ผ่านการส่งมอบนวัตกรรมการเกษตรด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ
สำหรับผู้ที่สนใจอยากปลูกฟักทองสายพันธุ์ของเจียไต๋ สามารถหาซื้อเมล็ดพันธุ์คุณภาพได้ที่ร้านค้าเกษตรชั้นนำ หรือทาง Facebook: เมล็ดพันธุ์เจียไต๋ www.facebook.com/chiataiseed Facebook : Chia Tai Home Garden www.facebook.com/cthomegarden และสำหรับผู้ที่อยากซื้อผลิตผลสดฟักทอง บัตเตอร์นัท และมินิบอล (ผลิตผลตามฤดูกาล) สามารถสั่งซื้อได้ที่ ร้านเจียไต๋ฟาร์ม Facebook: Chia Tai Farm https://www.facebook.com/ChiaTaiFarmTH/ และใครที่อยากลิ้มลองเมนูฟักทองอร่อยๆ ของเจียไต๋ฟาร์ม สามารถมาชิมกันได้ที่เจียไต๋ฟาร์ม สาขาสุขุมวิท 60 หรือสั่งเดลิเวอรี่ผ่านแอปพลิเคชัน Lineman และ Robinhood ได้เลย