บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) หรือ JP ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนา ผลิตและจำหน่าย ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรก พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตผ่านแผนกลยุทธ์พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้ Own Brand อัพอัตราการทำกำไรเพิ่ม ดันสัดส่วนรายได้ 50% ของรายได้รวม พร้อมขยายกำลังการผลิตเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุน รับแผนรุกขยายฐาน OEM ผลักดันการเติบโตแบบก้าวกระโดด สู่ผู้นำด้านการวิจัย ผลิต จำหน่ายยาและอาหารเสริมครบวงจร
ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันนี้ (2 พฤศจิกายน 2564) ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค โดยใช้ชื่อย่อหุ้น 'JP' ในการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นก้าวที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการวิจัย ผลิต จำหน่ายยาและอาหารเสริมครบวงจรในประเทศไทย โดยมีแผนดำเนินงานมุ่งสร้างโอกาสเติบโตในอนาคตด้วยการขับเคลื่อนนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีคุณภาพ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ทั้งในเชิงดูแล ป้องกันและรักษาโรค เพื่อรองรับประเทศไทยก้าวสู่สังคมแห่งการดูแลสุขภาพ
ทั้งนี้ หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ จะนำเงินจากเสนอขายหุ้น IPO มาพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้ Own Brand พร้อมเดินหน้าแผนการออกสินค้าเพิ่มปีละ 4-5 รายการ ควบคู่ไปกับแผนการตลาดที่จะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายหลากหลายช่องทางมากขึ้น (Multi -Channel Marketing) ทั้งร้านขายยาทั่วไป ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ร้านสะดวกซื้อ ทีวีโฮมช้อปปิ้ง และช่องทางออนไลน์ (Online Channel) เพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์ Own Brand ให้มีสัดส่วนการขายเพิ่มขึ้นเป็น 50% ของรายได้รวม ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเพิ่มอัตราการทำกำไรขั้นต้นในอนาคตให้อยู่ในเกณฑ์ที่สูงขึ้น และจะเร่งดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานในจังหวัดกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นฐานการผลิตยาแผนปัจจุบัน และขยายโรงงานที่จังหวัดลำพูน ที่เป็นฐานการผลิตยาแผนโบราณและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ให้มีความสามารถด้านการผลิตที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับแผนขยายฐานลูกค้า OEM ในประเทศไทยและกลุ่มประเทศ CLMV จากการให้บริการครบวงจรแบบ One Stop Service และการมีทะเบียนยามากกว่า 2,000 รายการ ซึ่งถือเป็นแต้มต่อให้ JP รองรับความต้องการลูกค้ากลุ่ม OEM ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึง การสานต่อโครงการต่างๆ ที่บริษัทฯ ได้มีการจับมือระหว่างสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ในการพัฒนาและแปรรูปพืชสมุนไพร เช่น การพัฒนาพืช
วูฟเฟีย หรือ ไข่น้ำ หรือไข่ผำ ให้มาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็นโปรตีนจากพืช ภายใต้แบรนด์ 'สุภาพโอสถ' ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าทางการเกษตร อีกทั้งสนับสนุนและถ่ายทอดองค์ความรู้การเพาะเลี้ยงให้แก่เกษตรกร ช่วยสนับสนุนให้เกษตรกรไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านการใช้ฐานการผลิตของ JP เพื่อผลิตสารสกัดจากกัญชาและกัญชงในเชิงสุขภาพ ในการต่อยอดเพื่อพัฒนาสารสกัดจำหน่ายให้แก่ลูกค้า รวมถึงนำมาพัฒนาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ภายใต้ Own Brand ในอนาคตอีกด้วย
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า JP มีศักยภาพการเติบโตที่ดีท่ามกลางปัจจัยบวกจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมยาแผนปัจจุบันและผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร จากการที่ผู้บริโภคใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น รวมถึงการที่ภาครัฐให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนหันมาบริโภคผลิตภัณฑ์ยาที่ผลิตภายในประเทศสูงขึ้น อีกทั้ง บริษัทฯ มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนานและมีจุดแข็งด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาหลากหลายรูปแบบ ประกอบกับมีผู้บริหารที่มีประสบการณ์และไม่หยุดนิ่งที่จะแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งจะเป็นข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันที่จะสร้างโอกาสการขยายตัวด้านผลการดำเนินงานที่ดีต่อไปในอนาคต
นายโชษิต เดชวนิชยนุมัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม อัลฟา แคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วมกล่าวว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาธุรกิจให้มีความเข้มแข็งในทุกมิติ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับองค์กร และด้วยแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของ JP ที่มุ่งชูจุดเด่นด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการลงทุนด้านการตลาด เพื่อสร้างการรับรู้ของสินค้าภายใต้ Own Brand ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ควบคู่ไปกับแผนขยายฐานลูกค้า OEM ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งด้วยปัจจัยพื้นฐานอันแข็งแกร่งของ JP จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของ JP ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า JP เป็นหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคตอีกมาก (Growth Stock) จากจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจที่เป็นข้อได้เปรียบ อีกทั้ง บริษัทฯ ยังคงมีแผนขยายงานอย่างต่อเนื่อง และมีนโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน จึงเป็นหุ้นพื้นฐานแกร่ง ที่สามารถสร้างการเติบโตที่ดีต่อเนื่องได้ในอนาคต เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในระยะยาว และมองว่า JP จะเป็นหุ้นที่จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง