'บมจ. ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ SFT' หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน เดินหน้าลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ภายใต้มาตรฐาน GHP รับแผนปั้นธุรกิจ S-Curve ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์สู่กลุ่ม Flexible Packaging รองรับความต้องการลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มเครื่องสำอาง คาดก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ภายในไตรมาส 3/2565 หวังสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายซุง ชง ทอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SFT หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจรด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เริ่มเดินหน้าโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตแห่งที่ 2 ด้วยงบลงทุนประมาณ 180 ล้านบาท ภายใต้มาตรฐานการผลิตระดับ GHP เพื่อรองรับแผนขยายไลน์การผลิตไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ Flexible Packaging หรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน ถือเป็น S-Curve ที่จะมาสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขยายฐานกลุ่มลูกค้าและเตรียมรองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น โดยปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนาการผลิตกลุ่มผลิตภัณฑ์ชนิดดังกล่าวโดยใช้ระบบการพิมพ์แบบดิจิทัล และเตรียมเริ่มทดลองการทำตลาดกับกลุ่มลูกค้าภายในปลายปีนี้
สำหรับโรงงานแห่งใหม่ มีพื้นที่ขนาดประมาณ 5 ไร่ ที่ตั้งอยู่บนถนนเทพรัตน ตำบลบางปะกง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 3/2565 โดยโรงงานนี้ มีพื้นที่ติดคลังสินค้าเดิมของบริษัทฯ ซึ่งจะช่วยบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตและการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมความสามารถด้านการแข่งขันที่ดีให้แก่ SFT เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าในการนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้แบรนด์สินค้าเพื่อรองรับการตลาดทั้งในและต่างประเทศ หลังจากแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น
"เราได้เริ่มลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยนำเงินที่ได้จากการที่ได้เข้าระดมทุนในตลาดเอ็ม เอ ไอ มาต่อยอดสร้าง S-Curve ใหม่ให้แก่บริษัทฯ ที่จะช่วยการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อจากนี้ ด้วยแผนยุทธศาสตร์ของ SFT ที่ขยายไลน์สินค้าไปสู่ Flexible Packaging ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญจากความต้องการของลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมอาหารที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ SFT สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น" นายซุง ชง ทอย กล่าว