กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--สนพ.
กพช. อนุมัติเปิดเสรีผลิตไฟฟ้า โดยให้ผู้ผลิตไฟฟ้าทุกรายที่ใช้ระบบผลิตไฟฟ้า น้ำร้อน และน้ำเย็นร่วมกัน สามารถผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายไฟเข้าระบบได้ มั่นใจเกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่ายทั้งแก่ประเทศและประชาชน เพราะเป็นการ ส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
นายเมตตา บันเทิงสุข ผู้อำนวยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมฯ มีมติเห็นชอบในหลักการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าน้ำร้อน และน้ำเย็นร่วมกัน (Combined Heat and Power : CHP) ในลักษณะDistributed Generation (DG) ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงพลังงาน โดยมอบหมาย สนพ. ไปดำเนินการศึกษาแนวทางการส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้าในลักษณะ CHP รวมทั้งปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมต่อไป
สำหรับผู้ดำเนินธุรกิจและจำหน่ายไฟฟ้าในลักษณะ DG นี้ จะต้องเป็นการผลิตไฟฟ้า ณ จุดใช้งานผู้ใช้ไฟฟ้า (Customer's Site) โดยอาจติดตั้งขนานกับระบบจำหน่าย (Local distribution network) หรือติดตั้งแยกอิสระจากระบบจำหน่ายไฟฟ้าทั่วไป (Stand alone) โดยเป็นการเปิดโอกาสให้มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนผลิตไฟฟ้ามากขึ้น ขณะที่ถ้ามีปริมาณพลังไฟฟ้าส่วนเกินที่เหลือจากการใช้หรือจำหน่าย หากไม่เกิน 1 เมกะวัตต์ สามารถเสนอขายเข้าระบบของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายได้ตามระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาดเล็กมาก (VSPP) ขณะที่ถ้ามีจำนวนมากกว่า 1 เมกะวัตต์ สามารถขายไฟฟ้าเข้าระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) โดยขณะนี้มีผู้สนใจหลายรายที่ต้องการเข้ามาลงทุน ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ปตท. และผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน เป็นต้น
ประโยชน์ที่เกิดขึ้นเป็นการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรของประเทศให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะช่วยให้ประเทศประหยัดเงินค่าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า รวมทั้งลดการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าได้ เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าจะอยู่ใกล้กับแหล่งที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้า ทำให้ลดการลงทุนก่อสร้างระบบส่งไฟฟ้า และช่วยลดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak Demand) ให้กับประเทศได้--จบ--