บมจ.ธนพิริยะ หรือ TNP ค้าปลีกคนไทยรายใหญ่ของเชียงราย เดินหน้าธุรกิจอย่างสดใส อวดผลประกอบการไตรมาส 3/64 ทำรายได้ 576 ลบ. กวาดกำไร 37 ลบ. ส่งผลให้งวด 9 เดือน ทำรายได้สูงถึง 1,932.60 ลบ. พร้อมการปรับกลยุทธ์และการบริหารงาน เดินหน้าเปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้า 38 สาขาในปี 2564 โตสวนกระแสกลุ่ม มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐยังเป็นอานิสงส์ในทางบวก พร้อมเตรียมแผนรุกตลาดออนไลน์ ยังคงตั้งเป้าเติบโต 15%
นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย โชว์ความสำเร็จในการบริหารงาน เดินหน้าเปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง แม้อยู่ในสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ก็ยังโตสวนกระแส สวนทางกลุ่มธุรกิจ เพิ่มเป้าการเปิดสาขาจากเดิม 37 เป็น 38 สาขา ภายในสิ้นปี 2564 โดยล่าสุดเปิดให้บริการแล้วคือสาขาที่ 36 สาขาถนนกองช้าง(สันโค้งหลวง) ที่ถือว่าประสบความสำเร็จในการปรับกลยุทธ์ และการบริหารงานในด้านต่างๆได้อย่างดีเยี่ยม
โดยผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายจำนวน 576.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 57.58 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.10 ทั้งนี้ยอดขายสาขาเดิมเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 สำหรับงวด 9 เดือนปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายจำนวน 1,932.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 352.49 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 22.31 การเพิ่มขึ้นของยอดขายส่วนหนึ่งมาจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนจากมาตรการของภาครัฐ โดยส่งผลให้ภาพรวมยอดขายสาขาเดิมเพิ่มขึ้นและการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ ส่งผลให้ยอดขายรวมเพิ่มสูงขึ้น
บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจำนวน 99.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 13.79 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.05โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 17.30 และสำหรับงวด 9 เดือน บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจำนวน 329.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 73.43 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 28.65โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 17.06 ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่ารายได้จากการขายส่งของสำนักงานใหญ่และการได้รับค่าสนับสนุนการขายจากผู้จำหน่ายซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทฯ มีการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 37.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 7.74 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25.77 โดยมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 6.51 และสำหรับงวด 9 เดือน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 138.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 48.99 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 54.59โดยมี อัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 7.13
ด้านเภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ พร้อมเผยถึงแนวโน้มช่วงโค้งสุดท้ายของปีที่เหลือ ยังเดินหน้าได้ตามแผน เร่งเดินหน้าเปิดสาขาให้ได้ครบตามกำหนดอีกจำนวน 2 สาขา โดยปีนี้2564 เราได้ขยายสาขามาแล้วทั้งหมด 4 สาขา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนชาวเชียงราย เชียงใหม่ และพะเยา ให้ได้มีซุปเปอร์มาร์เก็ตในพื้นที่ชุมชนเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดระยะการเดินทาง และเข้าถึงการซื้อของอุปโภคบริโภคได้อย่างสะดวกสบาย คาดว่าอีก2 เดือนที่เหลือก่อนหมดปี จะเห็นทิศทางบวกที่พุ่งขึ้นกว่าเดิมหลังเปิดประเทศ เศรษฐกิจเดินหน้าได้ต่อ
นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมแผนรุกตลาดแพลตฟอร์มออนไลน์ และการเดลิเวอร์รี่เพื่อให้เป็นร้านสะดวกซื้อที่เข้าถึงได้อย่างครบวงจร โดยยังตั้งเป้าเติบโตอยู่ที่ 15-20%