BEX เปิดใช้ระบบซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์ “ เฟิร์สท์ (Firsts) ” ต้นปี 2549 รองรับการขยายฐานนักลงทุนสถาบัน

ข่าวทั่วไป Monday December 19, 2005 11:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดตราสารหนี้ BEX มุ่งขยายฐานนักลงทุนสถาบัน เปิดให้บริการระบบซื้อขายตราสารหนี้อิเล็กทรอนิกส์ “เฟิร์สท์ (Firsts)” รองรับการทำธุรกรรมซื้อขายตราสารหนี้ ผ่านระบบโดยตรงระหว่าง -คู่ค้ากันเอง พร้อม
ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการซื้อขายตราสารหนี้เป็นร้อยละ 30 ของมูลค่าการซื้อขายทั้งตลาด เพิ่มมาตรการกระตุ้นการซื้อขายด้วยกิจกรรมการซื้อขายตราสารหนี้จำลอง (Bond Trading Simulation) และเพิ่มช่องทางซื้อขายผ่านระบบ Internet Trading
ดร. สันติ กีระนันทน์ ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Bond Electronic Exchange หรือ BEX) เปิดเผยว่า ตลาดตราสารหนี้ BEX จะเริ่มเปิดใช้ระบบซื้อขายตราสารหนี้อิเล็กทรอนิกส์ หรือ ระบบ-เฟิร์สท์ ซึ่งเริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2548 เพื่อเพิ่มความสะดวกในการซื้อขายแก่ผู้ค้าตราสารหนี้ นักลงทุนสถาบัน และ นายหน้าค้า จัดจำหน่ายหน่วยลงทุน
ระบบเฟิร์สท์ หรือ Firsts ( Fixed Income and Related Securities Trading System) ได้รับการพัฒนาให้เป็นระบบซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้บริการอย่างครบวงจร ทั้งการส่งคำสั่งซื้อขาย การเจรจาต่อรอง อีกทั้งระบบนี้จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลราคาซื้อขายแบบเรียลไทม์ และสามารถใช้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ตราสารหนี้ เช่น คำนวณราคา ดัชนีตราสารหนี้ เป็นต้น
นอกจากนี้ระบบการซื้อขาย เฟิร์สท์ ยังเชื่อมโยงกับระบบการชำระราคาและส่งมอบ ของบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) จึงทำให้ธุรกรรมการซื้อขายตราสารหนี้ของนักลงทุนสถาบัน และผู้ค้าตราสารหนี้ สามารถทำธุรกรรมได้โดยตรงผ่านระบบ จึงทำให้ผู้ใช้ระบบได้รับความสะดวกรวดเร็ว และลดค่าใช้จ่าย
“คาดว่าการให้บริการระบบซื้อขายที่อำนวยความสะดวกในการซื้อขายตราสารหนี้ของระบบเฟิร์สท์ จะมีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าการซื้อขายตราสารหนี้ โดยในปี 2549 นี้ ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการซื้อขายตราสารหนี้เป็น
ร้อยละ 30 ของมูลค่าการซื้อขายทั้งตลาด ” ดร. สันติกล่าว
“สำหรับเป้าหมายในการดำเนินงานในปี 2549 เพื่อให้สอดรับการเป็นศูนย์กลางการซื้อขายตราสารหนี้ของประเทศนั้น นอกเหนือจากการเพิ่มปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ให้เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 แล้ว ยังมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ตราสารหนี้ ของหุ้นกู้ภาคเอกชน เข้าจดทะเบียนในตลาดตราสารหนี้เพิ่มเป็นร้อยละ 50 ของหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด ในขณะที่จะผลักดันให้มีการนำพันธบัตรภาครัฐเข้าจดทะเบียนทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ ” ดร.สันติกล่าว
ปัจจุบันมีตราสารหนี้ภาคเอกชนที่จดทะเบียนใน BEX ทั้งหมด 78 รายการ โดยมีมูลค่าคงค้าง เท่ากับ 733,452.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 จำนวน 42 รายการหรือคิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 550,231 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 828 เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของตราสารหนี้เข้าจดทะเบียนใหม่ในปี 2547
ทั้งนี้ มูลค่าคงค้างตราสารหนี้ที่เข้าจดทะเบียนใหม่ แบ่งเป็นตราสารหนี้ภาคเอกชน 23 รายการ มูลค่ารวม 83,454 ล้านบาท ตราสารหนี้ภาครัฐจดทะเบียน ทั้งหมด 19 รายการ มูลค่ารวม 466, 777 ล้านบาท แบ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาล 10 รายการ มูลค่า 343,190 ล้านบาท พันธบัตรออมทรัพย์ 4 รายการ มูลค่า 90,187 ล้านบาท พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ 2 รุ่น มูลค่า 7,000 ล้านบาท และ พันธบัตรหน่วยงานรัฐ 3 รุ่น 26,400 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้บริการเป็นนายหน้าค้าตราสารหนี้ ทั้งสิ้น 13 บริษัท
“ในปี 2549 BEX ได้เตรียมจัดโครงการ” การซื้อขายตราสารหนี้จำลอง (Bond Trading Simulation)” เพื่อจำลองวิธีการซื้อขายและลงทุนในตราสารหนี้ให้นักลงทุน ประชาชนทั่วไป นักศึกษาได้เข้ามาฝึกฝนเสริมทักษะ และเข้าใจถึงวิธีการซื้อขายตราสารหนี้มากขึ้น และมองว่าการลงทุนในตราสารหนี้ ไม่ใช่เรื่องยากและไกลตัวอีกต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 2” ดร.สันติกล่าว
ทั้งนี้ เป้าหมายของการพัฒนาที่สำคัญของ BEX ในปี 2549 คือการพัฒนาระบบซื้อขายให้เข้าถึงและเพิ่มความคล่องตัวแก่ผู้ลงทุนโดยสามารถซื้อขายผ่านระบบ Internet Trading ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ BEX จะพัฒนาด้านระบบสารสนเทศ โดยพัฒนาระบบฐานข้อมูล ข้อมูลซื้อขาย ข้อมูลสถิติ และข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ เพื่อให้การเผยแพร่และการนำข้อมูลไปใช้มีประสิทธิภาพ อีกทั้ง ยังวางเป้าหมายสำหรับปี 2549 ที่จะพัฒนาระบบเพื่อรองรับการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ สำหรับตลาดซื้อคืนตรา
สารหนี้ภาคเอกชน หรือ Private Repo ในประเทศไทยร่วมกับบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ อีกด้วยสำหรับมาตรการกระตุ้นการเพิ่มธุรกรรมด้านตราสารหนี้ ในปี 2549 BEX ได้ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน เช่น ผู้ออกตราสารหนี้ ที่ปรึกษาทางการเงิน ผู้จัดการการจัดจำหน่าย และองค์กรกำกับดูแล ในการประชาสัมพันธ์ตลาดตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการออกตราสารหนี้เพิ่มขึ้นด้วยการจัดอบรมสัมมนาให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายผู้ออกตราสารหนี้ ให้เข้าใจถึงประโยชน์และวิธีการระดมทุนด้วยการออกตราสารหนี้ รู้จักตราสารหนี้ประเภทใหม่ๆ เพื่อเป็นทางเลือกในการออกตราสารหนี้
นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับตราสารหนี้ แก่นักลงทุนผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ อาทิ การจัดนิทรรศการออกบูธ ในงาน Investor Day, Money Expo เผยแพร่สื่อสิ่งพิมพ์ รายการวิทยุ เช่น คลื่น FM 101 รายการโทรทัศน์ “ก้าวทันตลาดทุน” ทางช่อง 9 รายการ SET in The City UBC 7 และ สถานีโทรทัศน์ Money Channel UBC 97 รวมทั้งเว็บไซต์ www.bex.or.th
นอกจากบทบาทการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ของไทยให้เติบโตและมีเสถียรภาพทัดเทียมกับสากลแล้ว BEX ยังตระหนักถึงความสำคัญต่อการช่วยเหลือสังคมด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส เช่น การบริจาคและมอบทุนเพื่อสนับสนุนกิจกรรมแก่องค์กรและมูลนิธิเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร:
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049
วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ