BROOK กำไรไตรมาส 3/64 กระฉูด 328.04 ล้านบาท เติบโตจากการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นไปตามแนวโน้มตลาดทั่วโลก 'วริศ บูลกุล' ผู้บริหารคนเก่ง เร่งศึกษาการลงทุนหลายโปรเจกต์ดิจิทัลแอสเสทเพื่อกระจายความเสี่ยง เคาะวันประชุมผู้ถือหุ้นใหม่ 29 ธ.ค.นี้ เสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาแผนบริหาร Digital Asset Treasury Fund Program วงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ยิ้มรับผลงานปี 64 เติบโตเกินคาด
นายวริศ บูลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BROOK ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้านการลงทุนและอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินธุรกิจของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 328.04 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 9.32 ล้านบาทหรือเติบโตเพิ่มขึ้น 3420% โดยการปรับเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิ บริษัทและบริษัทย่อยสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายลดลงและกำไรจากมูลค่าสินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น ส่วนรายได้ปรับตัวเพิ่ม 491.09% อยู่ที่ 403.54 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 68.27 ล้านบาท โดยรายได้สินค้าคงเหลือ อัตราแลกเปลี่ยน และรายได้บริการเติบโตโดดเด่นที่สุดในไตรมาสที่ 3
ขณะที่ผลงานการดำเนินงานงวด 9 เดือน มีรายได้รวม 676.20 ล้านบาท เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 132.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 411.88% โดยการปรับเพิ่มขึ้นของรายได้สาเหตุหลักมาจากบางโครงการของฝ่ายที่ปรึกษาด้านธุรกิจได้เสร็จสมบูรณ์ และรายได้อื่นจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นถึง 136 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้ดำเนินการไปแล้วจนถึง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564 บริษัทมีราคาทุนอยู่ที่ 36.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และราคาตลาดอยู่ที่ 48.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการลงทุนใน Bitcoin, Ethereum, BNB โทเคน และอื่นๆ ผ่านตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน 2 แห่ง โดยแห่งแรกจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้น NASDAQ และอีกแห่งเป็นตลาดซื้อขาย Cryptocurrencies Exchanges ที่ใหญ่ที่สุดด้วยการวัดจากมูลค่าการซื้อขาย
ขณะที่แผนการลงทุนในอนาคต บริษัทฯได้ยกเลิกแผนเดิมในการลงทุนสเตเบิ้ลคอยน์ผ่าน Zipmex มูลค่าไม่เกิน 150 ล้านบาท เนื่องจากเงื่อนเวลาในการเข้าลงทุนเปลี่ยนไป โดยคณะกรรมการบริษัทฯจะนำเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาแผนการลงทุนในอนาคต เป็นการจัดสรรการลงทุนใหม่ (Reallocation) สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งอยู่ในรูปสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลที่ได้ลงทุนไปแล้วในช่วง 29 มีนาคม 2564 ถึง 31 ตุลาคม 2564 โดยจะนำดอกผลที่ได้จากเม็ดเงินลงทุนและกำไรที่เกิดจากการปรับตัวขึ้นของเหรียญที่ได้ลงทุนด้วยเม็ดเงินเดิมมาใช้ในการ Reallocation ด้วย ซึ่งจะเรียกว่า 'Digital Asset Treasury Fund Program' โดยวงเงิน Reallocation จะเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท เป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกิน แต่ไม่ใช่ลักษณะ Trading Activity ที่เป็นการซื้อขายตลอดเวลา Reallocation ทำเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของเหรียญเป็นหลัก
ทั้งนี้ตามมติที่ประชุมกรรมการบริษัทฯ ได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2564 ใหม่ เป็นวันที่ 29 ธันวาคม 2564 และยกเลิก Record date เดิมที่กำหนดเป็นวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เปลี่ยนเป็น 24 พฤศจิกายน 2564
"ผมคาดหวังสำหรับการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 29 ธันวาคมนี้ เชื่อว่าผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่จะเข้าใจถึงแผนงานและการเดินหน้าของบริษัทฯที่ได้วางแผนบริหารการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และมั่นใจว่าปี 2564 จะเป็นปีที่เติบโตได้ดีสำหรับบริษัทฯ" วริศ กล่าวทิ้งท้าย