กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีความเห็นต่อผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติด้วยเสียงเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 12 ติดต่อกัน
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินว่า ประเทศไทยได้ผ่านสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดมาแล้ว เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวตามการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ลดลง คาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจะอยู่ที่ 0.7% ในปี 2564 และ 3.9% ในปี 2565 ตามที่ประมาณการไว้ก่อนหน้า โดยมีแรงหนุนมาจากการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ ส่วนภาคการส่งออกนั้นมีแนวโน้มชะลอตัวตามเทรนด์การค้าโลก นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ภาคแรงงานมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นชั่วคราวตามปัจจัยด้านอุปทาน แต่มีความเสี่ยงด้านสูงหากราคาพลังงานโลกอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่ประเมินไว้และข้อจำกัดด้านอุปทานในต่างประเทศมีแนวโน้มยืดเยื้อ อย่างไรก็ตาม แรงกดดันด้านอุปสงค์จะยังคงอยู่ และแม้สภาพคล่องในระบบการเงินยังอยู่ในระดับสูง แต่ กนง. มองว่าความเสี่ยงด้านเครดิตยังเป็นอุปสรรคต่อการกระจายตัวของสภาพคล่อง
การซื้อขายเงินบาทมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในอัตราซื้อขายที่ราว 32.75 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทนั้นอ่อนค่าลงกว่า 9% ในปีนี้ แต่ก็ยังสามารถลดช่วงลบได้บ้างจากความหวังที่ว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ และกระแสเงินทุนที่ไหลเข้ามามากในสัปดาห์นี้ โดย กนง. ตั้งข้อสังเกตว่าเงินบาทนั้นเคลื่อนไหวผันผวนรุนแรงกว่าเดิม อันเนื่องมาจากนโยบายทางการเงินของประเทศเศรษฐกิจชั้นนำและความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวภายในประเทศ
คณะกรรมการกนง. มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 22 ธันวาคม แถลงการณ์จากการประชุมครั้งนี้บ่งบอกถึงสัญญาณเชิงบวกอย่างระมัดระวังที่เราไม่ได้เห็นกันมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว คณะกรรมการ กนง. มองว่า ความเสี่ยงด้านต่ำที่ส่งผลต่อการคาดการณ์ด้านการเติบโตของเศรษฐกิจนั้นลดลงอันเนื่องมาจากแผนการกระจายวัคซีนที่รวดเร็วขึ้น แต่ความไม่แน่นอนยังคงอยู่อันเนื่องมาจากการเปิดประเทศซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ความเพียงพอของมาตรการด้านการคลัง มาตรการทางการเงินและเครดิต และราคาพลังงานโลก ยังเป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด คณะกรรมการ กนง. ยังคงย้ำว่า ประเด็นสำคัญคือการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยกรุงศรีคาดว่าดอกเบี้ยนโยบายจะยังคงเดิมไปจนสิ้นปี 2565