นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) (EKH) ผู้ประกอบธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยถึง ผลประกอบการงวด 9 เดือน (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564) ของกลุ่มบริษัท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 255.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 228.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 848.22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิเท่ากับ 26.92 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 876.26 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 462.67 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 89.39% ขณะที่ไตรมาสมาส3/ 2564 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 155.81 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 15.89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 880.55% ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 412.76 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 156.75 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 163.32%
สาเหตุที่ผลการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น จากจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทฯ รุกขยายการเปิดบริการตรวจเชื้อโควิด-19 รวมถึงมีผู้เข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจนเกือบเต็มเช่นเดียวกับผู้ป่วย IPD และผู้ป่วย OPD ขณะที่ธุรกิจการรักษาพยาบาลทั่วไปในโรงพยาบาล อาทิ ศูนย์ฉุกเฉิน,ศูนย์กุมารเวช,ศูนย์สูติ-นรีเวช ยังมีผู้เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยสนับสนุนให้รายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทจึงได้ปรับเป้ารายได้ปี 2564 เพิ่มอีกโดยตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 60% เมื่อเทียบปีที่ผ่านมา
"ผลการดำเนินงานที่ออกมาถือว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เพราะปีนี้ธุรกิจของโรงพยาบาลถือว่าคึกคักมาก เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีจำนวนผู้ป่วย และมีผู้เข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งยังมีรายได้จากการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 และการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ส่วนบริการทางการแพทย์ด้านต่างๆ ในโรงพยาบาลยังมีผู้เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญสามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ภาพรวมของผลการดำเนินงานเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งตามที่ตั้งเป้าไว้" นายแพทย์อำนาจกล่าว
กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล EKH กล่าวอีกว่า ในอนาคตบริษัทฯ มีแผนจะขยายส่วนงานด้านสุขภาพต่างๆ รวมถึงลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มหรือ Synergy ให้กับบริษัทฯ อีกทั้งยังทำให้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้และผลกำไร ให้แข็งแกร่งมากกว่าที่เป็นอยู่ และสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต